Page 207 - 23154_Fulltext
P. 207

202


                              (3) ให้คณะกรรมการสรรหาด าเนินการสรรหาบุคคลซึ่งมีคุณสมบัติตามมาตรา 28 ไม่มีลักษณะ

                       ต้องห้ามตามมาตรา 29 และมีความรู้ความสามารถเป็นที่ประจักษ์ในแต่ละด้าน แล้วจัดท าบัญชีรายชื่อ
                       เสนอต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ในการนี้ คณะกรรมการสรรหาจะเสนอชื่อตนเองมิได้
                              (4) การสรรหาบุคคลตาม (3) ให้ค านึงถึงความหลากหลายของบุคคลจากกลุ่มต่าง ๆ ในภาครัฐ

                       ภาคเอกชน ภาคสังคม ภาควิชาการ ภาควิชาชีพ และภาคอื่นที่จะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติหน้าที่ของ
                       สภาปฏิรูปแห่งชาติ การกระจายตามจังหวัด โอกาสและความเท่าเทียมกันทางเพศ รวมทั้งผู้ด้อยโอกาส

                              (5) ให้คณะกรรมการสรรหาประจ าจังหวัดประกอบด้วยบุคคลตามที่ก าหนดในพระราชกฤษฎีกา
                              (6) ให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติคัดเลือกบุคคลที่เห็นสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภา

                       ปฏิรูปแห่งชาติจากบัญชีรายชื่อที่คณะกรรมการสรรหาตาม (1) เสนอ ไม่เกิน 250 คน โดยในจ านวนนี้ให้
                       คัดเลือกจากบุคคลที่คณะกรรมการสรรหาประจ าจังหวัดเสนอ จังหวัดละหนึ่งคน”

                              “มาตรา 31 สภาปฏิรูปแห่งชาติมีอ านาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้
                              (1) ศึกษา วิเคราะห์ และจัดท า แนวทางและข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปด้านต่าง ๆ ตามมาตรา

                       27 เสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ คณะรัฐมนตรี คณะรักษาความสงบแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

                              (2) เสนอความเห็นหรือข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ในการ
                       จัดท าร่างรัฐธรรมนูญ
                              (3) พิจารณาและให้ความเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญที่คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญจัดท าขึ้น

                              ในการด าเนินการตาม (๑) หากเห็นว่ากรณีใดจ าเป็นต้องตราพระราชบัญญัติหรือพระราชบัญญัติ

                       ประกอบรัฐธรรมนูญขึ้นใช้บังคับ ให้สภาปฏิรูปแห่งชาติจัดท าร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวเสนอต่อสภานิติ
                       บัญญัติแห่งชาติเพื่อพิจารณาต่อไป ในกรณีที่เป็นร่างพระราชบัญญัติเกี่ยวด้วยการเงินหรือร่าง
                       พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ให้จัดท าเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อด าเนินการต่อไป

                              ให้สภาปฏิรูปแห่งชาติเสนอความเห็นหรือข้อเสนอแนะตาม (๒) ต่อคณะกรรมาธิการยกร่าง
                       รัฐธรรมนูญภายในหกสิบวันนับแต่วันที่มีการประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติครั้งแรก”

                       โดยสรุปแล้ว สปช. จึงมีที่มายึดโยงอยู่ภายใต้ คสช. ทั้ง 250 คน โดยที่มีอ านาจหน้าที่ตามมาตรา 27 และ
               37 ในการศึกษาประเด็นที่ คสช. ให้ท าการศึกษาทั้ง 10 ประเด็นในมาตรา 27 เพื่อท าเป็นรายงานเสนอแนะต่อ

               แม่น้ าสายอื่นที่เหลือเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการจัดท าร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
                       จากนั้นมาประการที่สี่คือ คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ จ านวน 36 คนซึ่งประธาน สปช. แต่งตั้งขึ้น

               โดยมีที่มาอ านาจหน้าที่ตามมาตรา 32 34 และ 36 ดังบทบัญญัติไว้ดังนี้
                              “มาตรา 32 ให้มีคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญขึ้นคณะหนึ่งเพื่อจัดท าร่างรัฐธรรมนูญ

                       ประกอบด้วยกรรมาธิการจ านวน 36 คน ซึ่งประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติแต่งตั้งจากบุคคลดังต่อไปนี้
                              (1) ประธานกรรมาธิการตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ

                              (2) สภาปฏิรูปแห่งชาติเสนอ จ านวน 20 คน
                              (3) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ คณะรัฐมนตรี และคณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอฝ่ายละ 5 คน
   202   203   204   205   206   207   208   209   210   211   212