Page 199 - 23154_Fulltext
P. 199

194


                              สมาชิกวุฒิสภาจ านวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 4 ของจ านวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของวุฒิสภามีสิทธิ

                       เข้าชื่อร้องขอต่อประธานวุฒิสภาเพื่อให้วุฒิสภามีมติตามมาตรา 274 ให้ถอดถอนสมาชิกวุฒิสภาออกจาก
                       ต าแหน่งได้
                              ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งจ านวนไม่น้อยกว่า 20,000 คน มีสิทธิเข้าชื่อร้องขอให้ถอดถอนบุคคล

                       ตามมาตรา 270 ออกจากต าแหน่งได้ตามมาตรา 164”

                       จากทั้งสองมาตราข้างต้นจึงสังเกตได้ว่า วุฒิสภาได้รับอ านาจใหม่จากรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 ที่มากกว่าใน
               อดีตที่เป็นเพียงพิจารณาตรวจสอบถ่วงดุลสภาผู้แทนราษฎรหรือร่วมประชุมร่วมรัฐสภา หากแต่มาตรา 270 และ
               271 ได้ให้อ านาจวุฒิสภาสามารถถอดถอนได้ทั้งฝ่ายการเมืองหรือตุลาการที่ถูกประเมินว่าบุคคลดังกล่าวกระท า

               การทุจริตต่อหน้าที่ โดยสามารถสังเกตได้ว่า ประชานเองก็สามารถใช้อ านาจยื่นให้วุฒิสภาถอดถอนได้เช่นกันตาม
               มาตรา 271 วรรคสาม ซึ่งมาตราข้างต้นจึงขยายขอบเขตความสัมพันธ์เชิงอ านาจของวุฒิสภาให้เหนือกว่าสภา

               ผู้แทนราษฎรเป็นอย่างมาก ในลักษณะที่ไม่เพียงถ่วงดุลผ่านกระบวนการนิติบัญญัติ หากแต่ยังสามารถให้โทษผ่าน
               การถอดถอนได้ในที่สุด

                       อ านาจของฝ่ายตุลาการเพิ่มมากขึ้น มาตรา 139 (3) ว่าด้วยร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ และ
               มาตรา 142 (3) ว่าด้วยร่างพระราชบัญญัติ ดังนี้

                              “มาตรา 139 ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญจะเสนอได้ก็แต่โดย
                              (3) ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลฎีกา หรือองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งประธานศาลและประธาน

                       องค์กรนั้นเป็นผู้รักษาการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนั้น”
                              “มาตรา 142 ภายใต้บังคับมาตรา 139 ร่างพระราชบัญญัติจะเสนอได้ก็แต่โดย

                              (3) ศาลหรือองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ เฉพาะกฎหมายที่เกี่ยวกับการจัดองค์กรและกฎหมาย
                       ที่ประธานศาลและประธานองค์กรนั้นเป็นผู้รักษาการ”

                       จากอ านาจในมาตรา 139 (3) และ 142 (3) จึงสังเกตได้ว่าศาลรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นฝ่ายตุลาการนั้นทรง
               อ านาจมากพอที่จะสามารถเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการนิติบัญญัติได้ด้วยตนเอง โดยการเสนอร่าง

               พระราชบัญญัติ ขณะเดียวกัน ศาลรัฐธรรมนูญก็มีอ านาจทบทวนทางตุลาการ (judicial review) ใช้งานได้
               กว้างขวาง โดยสามารถใช้อ านาจทบทวนทางตุลาการเพื่อแทรกแซงกระบวนการนิติบัญญัติด้วยเหตุแห่งการขัด

               รัฐธรรมนูญ มาตรา 154 ดังนี้
                              “มาตรา 154 ร่างพระราชบัญญัติใดที่รัฐสภาให้ความเห็นชอบแล้ว ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะน าขึ้น

                       ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเพื่อพระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธยตามมาตรา 150 หรือร่าง
                       พระราชบัญญัติใดที่รัฐสภาลงมติยืนยันตามมาตรา 151 ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะน าร่างพระราชบัญญัติ

                       นั้นขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายอีกครั้งหนึ่ง
                              (1) หากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา หรือสมาชิกของทั้งสองสภารวมกันมีจ านวนไม่

                       น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจ านวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา เห็นว่าร่างพระราชบัญญัติ
                       ดังกล่าวมีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญนี้ หรือตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้
   194   195   196   197   198   199   200   201   202   203   204