Page 194 - 23154_Fulltext
P. 194

189




                       สรุป


                       บริบททางการเมืองหลังจากการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 แม้ว่าจะมีเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ
               ในการสถาปนาระเบียบการเมืองที่พรรคการเมืองในรัฐสภามีความเข้มแข็งสามารถน าเสนออุดมการณ์พรรคและ

               นโยบายได้เหนือตัวบุคคลหรือมุ้งการเมือง จนน ามาสู่กระแสชัยชนะอย่างถล่มทลายของพรรคไทยรักไทยที่น าโดย
               นายกรัฐมนตรีทักษิณ ทว่าอย่างไรก็ตาม ด้วยกระแสการต่อต้านการทุจริตของภาคประชาสังคม ประกอบกับกลไก

               การตรวจสอบความโปร่งใสทางการเมืองอย่าง ปปช. หรือศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึงพระราชอ านาจโน้มน้าวกรเมือง
               เพื่อท าให้กลไกเหล่านั้นท างานโดยพลัน ส่งผลให้มีการกดดันขั้วอ านาจของทักษิณด้วยกลไกของศาลรัฐธรรมนูญ

               และเมื่อเกิดช่องว่างในการแทรกแซงทางการเมือง ก็เป็นโอกาสแสวงหาผลประโยชน์ทางการเมืองของกองทัพอีก
               ครั้งที่จะรัฐประหารในนามของ คปค. เพื่อยึดอ านาจและประกาศใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราว พ.ศ. 2549 แทนที่

                       ในส่วนของเนื้อหาตัวบทของรัฐธรรมนูญชั่วคราว พ.ศ. 2549 นั้นโดยสรุปแล้วมีบทบัญญัติใกล้เคียงกับ
               ธรรมนูญการปกครองของคณะรัฐประหารในอดีต ทั้งฉบับ พ.ศ. 2515 2519 2520 หรือ 2534 โดยมีความ
               คล้ายกันในเรื่องของสภาจ าแลงเพื่อรองรับการแต่งตั้งคณะรัฐประหารให้เป็นส่วนหนึ่งของรัฐสภา มีการยุบรวมสภา

               คู่ให้เหลือระบบสภาเดี่ยวในนามสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และยังมักก าหนดให้รวมศูนย์อ านาจไว้ที่นายกรัฐมนตรี
               เพื่อให้สามารถบริหารราชการแผ่นดินได้โดยเบ็ดเสร็จในช่วงเปลี่ยนผ่าน หรือกล่าวคือ มีโครงสร้างทางการเมืองที่มี

               ระบบรัฐสภาแบบรวมศูนย์อ านาจไว้ที่ คปค. ซึ่งครอบง าทั้งกระบวนการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีและสภานิติบัญญัติ
               แห่งชาติ ตลอดจนควบคุมการท างานของรัฐสภาผ่านต าแหน่ง คมช. ขณะที่ความแตกต่างของรัฐธรรมนูญชั่วคราว

               พ.ศ. 2549 ฉบับนี้แตกต่างจากธรรมนูญการปกครองของคณะรัฐประหารฉบับที่ผ่านมาก็คือ มีการก าหนด
               โครงสร้างสภาร่างรัฐธรรมนูญให้ท าหน้าที่ร่างรัฐธรรมนูญโดยมีการยกร่างโดยคณะกรรมาธิการยกร่างอีกล าดับ โดย

               ที่ร่างรัฐธรรมนูญจะต้องได้รับความเห็นชอบจากองค์กรต่าง ๆ ที่ก าหนดไว้ และยังต้องจัดท าประชามติเพื่อรับฟัง
               ความเห็นชอบจากประชาชนที่มีต่อร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 อีกด้วย



                              4.2.18  รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550

                       บริบททางการเมือง


                       รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 เกิดขึ้นภายใต้บริบททางการเมืองหลังจากการยึดอ านาจของ คปค. และครอบง า
               กระบวนการร่างรัฐธรรมนูญโดย คปค. อีกล าดับผ่านอ านาจแต่งตั้งและควบคุมการท างานของสภาร่างรัฐธรรมนูญ

               สมัชชาแห่งชาติ ตลอดจนคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งภายใต้การท างานยกร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550
               นั้นอยู่ภายใต้บริบทของการต่อต้านนักการเมืองจากการเลือกตั้งอีกครั้ง ท าให้เกิดกระแสสนับสนุนการเมืองที่มี

               ตัวแทนของพลังชนชั้นน า เทคโนแครต หรือระบบราชการ ดังพิจารณาได้จากค าอภิปรายของจรัญ ภักดีธนากุล
               ประธานคณะอนุกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กรอบที่ 2 ที่สนับสนุนระบบวุฒิสภาจากการแต่งตั้งไว้โดยสรุปว่า

               จ าเป็นต้องมีวุฒิสภาที่เป็นกลางทางการเมือง เพื่อไว้ถ่วงดุลการต่อสู้ทางการเมืองกับสภาผู้แทนราษฎรโดยเฉพาะที่
   189   190   191   192   193   194   195   196   197   198   199