Page 188 - 23154_Fulltext
P. 188
183
โดยสรุปแล้วในส่วนของตัวบทของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 วางเจตนารมณ์อยู่บนหลักประชาธิปไตยที่ให้
ประชาชนมีส่วนร่วมและเปิดให้มีการตรวจสอบถ่วงดุลการเมืองในระบบรัฐสภาให้มีความโปร่งใส โดยหลักแล้ว
สังเกตได้ว่า การเลือกตั้งคือหัวใจส าคัญของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 ท าให้มีการปฏิรูปทั้งการเลือกตั้งแบบผสมเสียง
ข้างมาก (Mixed Member Majoritarian: MMM) และการเลือกตั้งวุฒิสภาแทนที่การแต่งตั้งแบบในอดีต ส่งผลให้
มีการจัดสรรให้อ านาจส าคัญทางการเมืองอย่างการเสนอกฎหมายหรือการควบคุมการประชุมรัฐสภาให้กับมาเป็น
อ านาจของสภาผู้แทนราษฎร อย่างไรก็ตาม หลักประกันหนึ่งว่า ส.ส. จะไม่ต่อรองเพื่อแสวงผลประโยชน์สูงสุดส่วน
ตนก็คือ การปฏิรูปให้เป็นระบบพรคการเมืองเข้มแข็ง ทั้งผ่านระบบเลือกตั้งและข้อผู้มัด ส.ส. ให้อยู่ภายใต้มติของ
พรรค ขณะที่อ านาจในการตรวจสอบถูกเพิ่มขึ้นในรูปแบบองค์กรอิสระ ไม่ว่าจะ กกต. หรือผู้ตรวจการแผ่นดินของ
รัฐสภา รวมถึงการตรวจสอบของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งองค์กรเหล่านี้ถูกคัดเลือกสมาชิกผ่านความร่วมมือขององค์กร
ที่สัมพันธ์กับวิชาชีพโดยตรง ไม่ว่าจะองค์กรศาล หรือผู้เชี่ยวชาญสายนิติศาสตร์หรือรัฐศาสตร์ อันเป็นเหตุให้
ผู้เชี่ยวชาญในองค์ความรู้ทางนิติศาสตร์สามารถเข้ามามีส่วนร่วมเลือกตัวแทนควบคุมตรวจสอบการเมือง ขณะที่
ประชาชนทั่วไปมีอ านาจในการลงประชามติเพื่อสะท้อนเสียงที่มีต่อประเด็นส าคัญทางการเมืองที่คณะรัฐมนตรีถูก
กดดันจากรัฐสภาและต้องการให้เสียงของประชาชนเป็นผู้สะท้อนความเห็นชอบในฐานะเจ้าของอ านาจ
สรุป
บริบทของประวัติศาสตร์การเมืองกว่าจะมาเป็นรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 ฉบับสมบูรณ์นั้นมีหมุดหมาย
ส าคัญมาจากเหตุการณ์ความรุนแรงในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ซึ่งเป็นความพยายามเรียกร้องปฏิรูปการเมืองให้
ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองหลังจากมีความตื่นตัวของภาคประชาสังคมในห้วงเวลาขณะนั้น หลังจาก
เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นต้นมา ระยะในการเปลี่ยนผ่านอย่างน้อยอีก 2 ครั้งส าคัญด้วยกัน อันได้แก่ การแก้ไข
รัฐธรรมนูญในสมัยของรัฐบาลอานันท์เพื่อลดอ านาจของวุฒิสภาในระบบรัฐสภา และปรับให้นายกรัฐมนตรีต้อง
เป็น ส.ส. การแก้ไขรัฐธรรมนูญในสมัยของรัฐบาลชวนเพื่อแก้ไขภาพรวมส่วนละเล็กน้อยในส่วนของระบบรัฐสภา
และในสมัยรัฐบาลบรรหารได้มีการแก้ไขบทว่าด้วยสภาร่างรัฐธรรมนูญ อันน ามาสู่กระบวนการตั้งสภาร่าง
รัฐธรรมนูญที่ประชาชนได้มีส่วนร่วม และมีกระบวนการมีส่วนร่วมรับฟังความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะต่าง ๆ อัน
เป็นปัจจัยที่ท าให้รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 แฝงด้วยเจตนารมณ์ที่เปิดให้ประชาชนเป็นเจ้าของอ านาจแท้จริง
เนื้อบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 ท าให้ระบบรัฐสภาได้เปลี่ยนแปลงไปเพื่อให้สัมพันธ์กับ
เจตนารมณ์ข้างต้นของรัฐธรรมนูญโดยสรุปใน 5 ส่วนส าคัญด้วยกัน ได้แก่ ส่วนของสภาผู้แทนราษฎรที่อ านาจการ
ต่อรองทางการเมืองภายในสภาเปลี่ยนแปลงเป็นระบบพรรคการเมืองเข้มแข็งหลังจากมีระบบเลือกตั้งแบบผสม
เสียงข้างมาก อันเป็นระบบการเลือกตั้งที่ผสมระหว่างระบบเสียงข้างมากของแต่ละเขต กับระบบสัดส่วนจากบัญชี
รายชื่อที่พรรคการเมืองเสนอ ซึ่งเป็นการขจัดรูปแบบการต่อรองทางการเมืองแบบมุ้งการเมืองที่นักการเมือง
รวมกลุ่มเป็นมุ้งเพื่อต่อรองย้ายขั้วอ านาจโดยอิสระ และท าให้ระบบพรรคการเมืองที่ชูนโยบายสาธารณะระดับชาติ
และอุดมการณ์พรรคให้มีความส าคัญไม่แพ้ตัวผู้สมัคร เพราะฉะนั้นแม้ว่ารัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 จะจัดสรรให้
อ านาจการควบคุมการประชุมรัฐสภาอยู่ภายใต้สภาผู้แทนราษฎรเป็นหลัก และให้มีเพียงคณะรัฐมนตรีและสภา
ผู้แทนราษฎรมีอ านาจเสนอกฎหมาย แต่การเสนอกฎหมายต้องมาจากภายใต้มติของพรรค และการย้ายขั้ว