Page 184 - 23154_Fulltext
P. 184

179


                                     “มาตรา 193 ในกรณีต่อไปนี้ ให้รัฐสภาประชุมร่วมกัน

                              (1) การให้ความเห็นชอบในการตั้งผู้ส าเร็จราชการแทนพระองค์ตามมาตรา 19
                              (2) การปฏิญาณตนของผู้ส าเร็จราชการแทนพระองค์ต่อรัฐสภาตามมาตรา 21

                              (3) การรับทราบการแก้ไขเพิ่มเติมกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พระพุทธศักราช
                       2467   ตามมาตรา 22

                              (4) การรับทราบหรือให้ความเห็นชอบในการสืบราชสมบัติตามมาตรา 23
                              (5) การปรึกษาร่างพระราชบัญญัติใหม่หรือร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญใหม่ตาม

                       มาตรา 94
                              (6) การมีมติให้รัฐสภาพิจารณาเรื่องอื่นในสมัยประชุมสามัญนิติบัญญัติได้ตามมาตรา 159

                              (7) การให้ความเห็นชอบในการปิดสมัยประชุมตามมาตรา 160
                              (8) การเปิดประชุมรัฐสภาตามมาตรา 161

                              (9) การให้ความเห็นชอบพิจารณาร่างพระราชบัญญัติใหม่หรือร่างพระราชบัญญัติประกอบรั

                       ฐธรรมนูญใหม่ตามมาตรา 173
                              (10) การให้ความเห็นชอบพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติม ร่างพระราชบัญญัติ หรือร่าง
                       พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญต่อไปตามมาตรา 178 วรรคสอง

                              (11) การตราข้อบังคับการประชุมรัฐสภาตามมาตรา 194

                              (12) การแถลงนโยบายตามมาตรา 211
                              (13) การเปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 213

                              (14) การให้ความเห็นชอบในการประกาศสงครามตามมาตรา 223
                              (15) การให้ความเห็นชอบหนังสือสัญญาตามมาตรา 224

                              (16) การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญตามมาตรา 313”
                       แม้ว่าอ านาจในการประชุมร่วมของทั้งสองสภาจะไม่มีความแตกต่างเป็นพิเศษจากรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2534

               แต่ทว่าสิ่งที่สังเกตได้คือ ความชอบธรรมของวุฒิสภาที่เปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากวุฒิสภาในรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540
               มาจากการเลือกตั้งโดยไม่สังกัดพรรคการเมือง ส่งผลให้ความสัมพันธ์เชิงอ านาจระหว่างวุฒิสภากับสภา

               ผู้แทนราษฎรเป็นความเท่ากันบนฐานของความชอบธรรมอันมีที่มาสัมพันธ์กับการเลือกตั้งตามหลักประชาธิปไตย
               ทั้งคู่ โดยที่ส่วนใหญ่แล้วอ านาจของวุฒิสภาจะเป็นการพิจารณาร่างกฎหมายจากสภาผู้แทนราษฎร ต่างกับสภา

               ผู้แทนราษฎรที่รับหน้าที่นิติบัญญัติในเชิงรุกด้วยการเสนอกฎหมายเอง อย่างไรก็ตาม วุฒิสภาตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.
               2540 มีอ านาจส าคัญประการหนึ่งที่จะควบคุมพฤติกรรมการแสวงผลประโยชน์สูงสุดทางเศรษฐกิจและการเมือง

               ของสภาผู้แทนราษฎรผ่านอ านาจของการเสนอแนะรายชื่อเพื่อแต่งตั้งองค์กรอิสระ
                       หลังจากนั้นประการที่สามว่าด้วยองค์กรอิสระ ซึ่งเป็นสถาบันที่มีบทบาทส าคัญในการร่วมถ่วงดุล
               ตรวจสอบฝ่ายการเมืองในระบบรัฐสภาไทย โดยมีวุฒิสภาเป็นผู้ควบคุมอ านาจในการแต่งตั้งองค์กรอิสระเหล่านี้

               โดยที่รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 ได้บัญญัติให้เกิดการตั้งองค์กรอิสระส าคัญที่จะมีผลควบคุมพฤติกรรมในการแสวง
   179   180   181   182   183   184   185   186   187   188   189