Page 181 - 23154_Fulltext
P. 181

176


               พิจารณ์ครบทุกจังหวัด มีการแจกแบบส ารวจความคิดเห็น 600,000 ชุด ศึกษาข้อเสนอแนะที่ประชาชนส่งมาทาง

               จดหมาย 20,000 ฉบับ รวมถึงสื่อประชาสัมพันธ์หลากรูปแบบเพื่อกระตุ้นความสนใจและความตื่นตัวของสังคมที่
               จะเข้ามามีส่วนร่วมสาธารณะ สุดท้ายจึงน ามาสู่ร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 ฉบับสมบูรณ์ (ภูริ ฟูวงศ์เจริญ, 2563:
               569-571; อมร รักษาสัตย์, 2543: 43-46)

                       โดยสุดท้ายแล้ว แม้ว่าสภาผู้แทนราษฎรอาจไม่ชอบใจกับเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญที่ลดทอนอ านาจ ดังที่
               บุญเลิศ คชายุทธเดช (2543) สังเกตถึงท่าทีของตัวแสดงในระบบรัฐสภา ตัวอย่างเช่น พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ

               นายกรัฐมนตรี แสดงท่าทีลังเลคลุมเครือ นายเสนาะ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมีท่าทีแข็งกร้าว
               ไม่เห็นชอบ หรือนายสมัคร สุนทรเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมที่ต่อต้านชัดเจนว่าจะไม่ให้ความสนับสนุน

               ร่างรัฐธรรมนูญ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ปัจจัยด้านโอกาสในช่วงเวลาวิกฤตที่จะท าให้นักการเมืองต้องกลับตัวมา
               สนับสนุนร่างรัฐธรรมนูญ ภูริ ฟูวงศ์เจริญ (2563) ประเมินว่าเป็นเพราะ “วิกฤติเศรษฐกิจต้มย ากุ้ง” กลายมาเป็น

               ปัจจัยที่ท าให้ชนชั้นกลางและชนชั้นน าทางธุรกิจโทษว่าเป็นความผิดของรัฐบาลของชวลิต หากนักการเมืองจะยิ่ง
               ต่อต้านร่างรัฐธรรมนูญผ่านกระบวนการรัฐสภาจะยิ่งท าให้สาธารณชนโกรธเกรี้ยวขับไล่รัฐบาลที่สูญเสียความชอบ
               ธรรมจนหมดสิ้นในที่สุด ด้วยเหตุนี้การมีรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 จึงได้รับการกล่าวถึงในลักษณะของรัฐธรรมนูญ

               ฉบับประชาชน เพราะทั้งมีกระบวนการยกร่างรัฐธรรมนูญที่ประชาชนมีส่วนร่วม เนื้อหาที่เป็นประชาธิปไตยที่มี
               การตรวจสอบ รวมถึงองค์กรอิสระที่จะมีบทบาทตรวจสอบการทุจริตของฝ่ายการเมืองในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ทั้งนี้

               เพื่อในส่วนของความสัมพันธ์เชิงอ านาจในระบบรัฐสภาที่จะมีความเปลี่ยนแปลงไปในรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน
               ฉบับนี้มีความเปลี่ยนแปลงมากเพียงใด จะมีการอภิปรายในส่วนต่อไป

                       โครงสร้างอ านาจหน้าที่ของรัฐสภา

                       ค าปรารภของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 เริ่มด้วยการบรรยายถึงความส าเร็จของสภาร่างรัฐธรรมนูญที่ได้รับ

               เลือกให้ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับเพื่อเป็นการปฏิรูปการเมืองให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการปกครองและได้
               ตรวจสอบอ านาจรัฐมากยิ่งขึ้น หลังจากที่มีความพยายามยกเลิกและเปลี่ยนรัฐธรรมนูญมาแล้วตลอดช่วง 65 ปี

               โดยแม้ว่าจะมีการปฏิรูปการเมือง แต่ในส่วนของพระราชอ านาจนั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดจากรัฐธรรมนูญ พ.ศ.
               2534 ขอบเขตอ านาจเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์และองคมนตรียังคงเดิมไม่ว่าจะเป็นจ านวนองคมนตรี 19 คน
               อ านาจการเมืองในการเสนอชื่อของคณะองคมนตรี หรือข้อจ ากัดมิให้องคมนตรีเป็นผู้มีต าแหน่งทางการเมือง

               ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ รวมถึงองค์กรอิสระที่มีการตั้งขึ้นใหม่ในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ รวมถึงพระราชอ านาจ
               โต้แย้งร่างพระราชบัญญัติภายใน 90 วันตามมาตรา 94 เป็นต้น แล้วแน่นอนว่ารัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 มีชื่อเสียง

               เรื่องการปฏิรูปการเมืองให้เป็นประชาธิปไตย เพราะฉะนั้นล าดับถัดไปจึงเป็นการพิจารณาความสัมพันธ์เชิงอ านาจ
               ในระบบรัฐสภาเปลี่ยนแปลงในรัฐธรรมนูญนี้ 5 ประการ ดังอภิปรายต่อไป

                       ประการแรกคือ ความสัมพันธ์เชิงอ านาจภายในระบบรัฐสภาได้เปลี่ยนกลับเอาอ านาจน าทางการเมือง
               กลับมาไว้ที่สภาผู้แทนราษฎรที่เป็นตัวแทนจากการเลือกตั้งอีกครั้ง โดยเริ่มพิจารณาได้ตั้งแต่มาตรา 91 ก าหนดให้

               ประธานสภาผู้แทนราษฎรกลับมารับต าแหน่งประธานรัฐสภาอีกครั้งหลังจากที่รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2534 เคยให้
   176   177   178   179   180   181   182   183   184   185   186