Page 161 - 23154_Fulltext
P. 161

156


                                                          บทที่ 6

                                  รัฐสภาในยุคประชาธิปไตยครึ่งใบ (พ.ศ. 2521-2534)


               7.1 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2521


                       บริบททางการเมือง

                       หลังจากที่มีการประกาศใช้ธรรมนูญการปกครอง พ.ศ. 2520 กระบวนการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองได้เริ่ม

               ขึ้นภายใต้การก ากับครอบง าของคณะปฏิวัติที่สืบทอดอ านาจผ่าน “สภานโยบายแห่งชาติ” ในด้านของการบริหาร
               การเมือง รัฐบาลยุคเกรียงศักดิ์มีการตอบสนองทางการเมืองที่ตรงข้ามกับรัฐบาลก่อนหน้า ไม่ว่าจะเป็นการลดการ
               กดปราบแรงงาน ผ่อนปรนเสรีภาพของสื่อมวลชน ออกกฎหมายนิรโทษกรรมจ าเลยในเหตุการณ์ 6 ตุลาคม พ.ศ.

               2519 หรือการปรับระดับความสัมพันธ์ทางการทูตต่อประเทศจีนเพื่อเจรจาให้ลดการสนับสนุนพรรคคอมมิวนิสต์
               แห่งประเทศไทย (พคท.) เป็นต้น ปฏิกิริยาเหล่านี้ส่งผลให้แรงกดดันทางการเมืองที่เคยเกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลนาย

               ธานินทร์ลดลง (ภูริ ฟูวงศ์เจริญ, 2563: 413)
                       ขณะเดียวกันก็ริเริ่มกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการ

               แต่งตั้งของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งอยู่ภายใต้การคัดเลือกโดยสภานโยบายแห่งชาติอีกล าดับ) โดยที่
               คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2521 มีประธานคณะกรรมาธิการคือ ศาสตราจารย์จิตติ ติงศภัทิย์ และมี

               นายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นเลขานุการคณะกรรมาธิการ นอกจากนั้นยังมีผู้เชี่ยวชาญทางนิติศาสตร์อย่างศาสตราจารย์
               ไพโรจน์ ชัยนาม เป็นสมาชิกคณะกรรมาธิการชุดนี้ด้วย (ปรีชาทัศน์, 2563) อย่างไรก็ตาม เจตนารมณ์ของการร่าง
               รัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ. 2521 เองก็ถูกตั้งข้อสงสัยว่า เป็นรัฐธรรมนูญเพื่อการสืบทอดอ านาจของกองทัพ (คมชัดลึก

               ออนไลน์, 2558; ไอลอว์, 2562) โดยให้วุฒิสภาจากการแต่งตั้งได้มีอ านาจเหนือกว่าสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้
               วุฒิสภาเป็นหลักประกันในการสืบทอดอ านาจ โดยที่เกรียงศักดิ์เองเป็นผู้เลือกวุฒิสภานั้นเสียเอง ทั้งนี้ในส่วนของ

               ความสัมพันธ์เชิงอ านาจอันสัมพันธ์กับระบบรัฐสภาในรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2521 ซึ่งมีอายุยืนยาวจนถึง พ.ศ. 2534
               นั้นบัญญัติสาระส าคัญไว้อย่างไรจะมีการอภิปรายในล าดับถัดไป



                       โครงสร้างอ านาจหน้าที่ของรัฐสภา


                       เมื่อพิจารณาจากค าปรารภของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2521 ข้อสังเกตส าคัญประการหนึ่งต่อชื่อเรียกการ
               เมืองไทยในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี้ได้เปลี่ยนชื่อเรียกใหม่เป็น “ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็น
               ประมุข” (ในขณะที่มาตรา 2 เรียกว่าเป็น “ระบอบประชาธิปไตยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข”) และเมื่อ

               พิจารณาถึงความสัมพันธ์เชิงอ านาจที่ก าหนดขึ้นใหม่ในรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2521 สามารถตั้งข้อสังเกตความ
               เปลี่ยนแปลงได้ใน 4 ประการดังต่อไปนี้

                       ประการแรกคือ ความสัมพันธ์เชิงอ านาจระหว่างรัฐสภากับองคมนตรี โดยอ านาจขององคมนตรีสามารถ
               ทั้งเสนอชื่อผู้ส าเร็จราชการแทนพระองค์ให้รัฐสภาแสดงความเห็นชอบได้ตามมาตรา 17 ในกรณีที่พระมหากษัตริย์
   156   157   158   159   160   161   162   163   164   165   166