Page 158 - 23154_Fulltext
P. 158
153
ในส่วนของหน้าที่จัดท าร่างรัฐธรรมนูญนั้นได้มีการให้อ านาจตามมาตรา 9 ในการให้สภานิติบัญญัติ
แห่งชาติแต่งตั้งคณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญเพื่อเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติได้ ส่วนรายละเอียดเรื่อง
จ านวนสมาชิก หรือข้อจ ากัดจะให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติมาเป็นคณะกรรมาธิการได้หรือไม่นั้น ตามมาตรา 9
วรรคสองให้เป็นไปตามมติของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ทั้งนี้หลังจากได้รับร่างรัฐธรรมนูญจากคณะกรรมาธิการร่าง
รัฐธรรมนูญแล้ว ตามมาตรา 10 ให้เป็นหน้าที่ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติในการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แบ่งเป็น
3 วาระ โดยวาระที่สามต้องได้รับเสียงเห็นชอบไม่ต่ ากว่า 2 ใน 3 ของสมาชิกทั้งหมดจึงจะประกาศใช้รัฐธรรมนูญได้
ทั้งนี้กรณีที่ไม่ได้รับเสียงเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 11 ให้จัดท าร่างรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่และขยายกรอบ
เวลาไปอีก 120 นับจากสิ้นปี พ.ศ. 2521 ทว่าสภานิติบัญญัติแห่งชาติต้องพ้นต าแหน่งทั้งชุดตามมาตรา 12
นอกจากนั้นตามมาตรา 30 และ 31 ยังสังเกตได้ว่า อ านาจในการวินิจฉัยประเด็นเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญให้
อยู่ในขอบเขตอ านาจของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เนื่องจากในธรรมนูญการปกครองไม่ได้มีต าแหน่งคณะตุลาการ
รัฐธรรมนูญในการท าหน้าที่วินิจฉัยประเด็นทางรัฐธรรมนูญอีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม อ านาจพิจารณาร่างพระราชบัญญัติของสภานิติบัญญัติแห่งชาติตามมาตรา 16 นั้นสะท้อน
ให้เห็นถึงขอบเขตจ ากัดไม่ให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติสามารถเสนอร่างพระราชบัญญัติประเภทใดเลยได้อีกต่อไป
จากเดิมที่รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2519 จ ากัดให้ร่างพระราชบัญญัติการเงินเป็นอ านาจของคณะรัฐมนตรีเท่านั้น หรือ
กล่าวได้ว่า อ านาจการเสนอร่างพระราชบัญญัติถูกช่วงชิงจากขอบเขตอ านาจของสภานิติบัญญัติให้จ ากัดให้เสนอได้
โดยคณะรัฐมนตรีเท่านั้น
ประการที่สอง คณะรัฐมนตรีมีทั้งอ านาจที่เพิ่มขึ้นและลดลงในความสัมพันธ์เชิงอ านาจที่เปลี่ยนแปลงไปใน
ธรรมนูญการปกครอง พ.ศ. 2520 ดังสังเกตได้จากอ านาจที่เพิ่มขึ้นจะเป็นไปตามมาตรา 16 วรรคสอง ที่ก าหนดให้
มีเพียงคณะรัฐมนตรีเท่านั้นที่สามารถเสนอร่างพระราชบัญญัติได้ ส่วนสภานิติบัญญัติแห่งชาติมีหน้าที่เพียง
พิจารณาเท่านั้น
นอกจากนั้นแล้ว มาตราว่าด้วยอ านาจเผด็จการยังคงสืบทอดมายังธรรมนูญการปกครองฉบับนี้ผ่านมาตรา
27 ที่บัญญัติไว้ว่า
“มาตรา 27 ในกรณีที่นายกรัฐมนตรีเห็นเป็นความจ าเป็นเพื่อผลประโยชน์ในการป้องกัน ระงับ
หรือปราบปรามการกระท าอันเป็นการบ่อนท าลายความมั่นคงของราชอาณาจักร ราชบัลลังก์ หรือ
เศรษฐกิจของประเทศ หรือราชการแผ่นดิน หรือการกระท าอันเป็นการก่อกวนหรือคุกคาม ความสงบ
เรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือการกระท าอันเป็นการท าลายทรัพยากรของประเทศ หรือ
เป็นการบั่นทอนสุขภาพอนามัยของประชาชน ทั้งนี้ไม่ว่าการกระท าจะเกิดขึ้นก่อนหรือหลังวันหลัง
ประกาศรัฐธรรมนูญฉบับนี้ และไม่ว่าเกิดขึ้นภายในหรือภายนอกราชอาณาจักร ให้นายกรัฐมนตรีโดย
ความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีและสภานโยบายแห่งชาติ มีอ านาจสั่งการหรือกระท าการใด ๆ ได้ และ
ให้ค าสั่งหรือการกระท าเช่นว่านั้นรวมถึงการปฏิบัติตามค าสั่งดังกล่าว เป็นค าสั่งหรือการกระท า หรือการ
ปฏิบัติโดยชอบด้วยกฎหมาย