Page 139 - 23154_Fulltext
P. 139
134
ประการที่สอง การรวบอ านาจบริหารและนิติบัญญัติของสภาไว้ที่นายกรัฐมนตรีเพียงผู้เดียวผ่านมาตรา
17 ของธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พ.ศ. 2515 อันเป็นการสืบทอดและขยายขอบเขตเพิ่มเติมจากมาตรา
17 ของธรรมนูญการปกครอง พ.ศ. 2502 โดยขอบเขตได้ขยายเพิ่มดังบัญญัติต่อไปนี้
“มาตรา 17 ในระหว่างที่ใช้ธรรมนูญการปกครองนี้ ในกรณีที่นายกรัฐมนตรีเห็นสมควรเพื่อผลประโยชน์
ในการป้องกัน ระงับ หรือปราบปรามการกระท าอันเป็นการบ่อนท าลายความมั่นคงของราชอาณาจักร ราชบัลลังก์
หรือเศรษฐกิจของประเทศ หรือราชการแผ่นดิน หรือการกระท าอันเป็นการก่อกวนหรือคุกคาม ความสงบ
เรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือการกระท าอันเป็นการท าลายทรัพยากรของประเทศ หรือเป็นการ
บั่นทอนสุขภาพอนามัยของประชาชน ทั้งนี้ไม่ว่าการกระท าจะเกิดขึ้นก่อนหรือหลังวันหลังประกาศรัฐธรรมนูญ
ฉบับนี้ และไม่ว่าเกิดขึ้นภายในหรือภายนอกราชอาณาจักร ให้นายกรัฐธรรมนูญโดยมติของคณะรัฐมนตรีมีอ านาจ
สั่งการหรือกระท าการใด ๆ ได้ และให้ค าสั่งหรือการกระท าเช่นว่านั้นรวมถึงการปฏิบัติตามค าสั่งดังกล่าว เป็น
ค าสั่งหรือการกระท าหรือการปฏิบัติโดยชอบด้วยกฎหมาย
เมื่อนายกรัฐมนตรีได้สั่งการหรือกระท าการใดไปตามความในวรรคหนึ่งแล้ว ให้นายกรัฐมนตรีแจ้งให้สภา
นิติบัญญัติแห่งชาติทราบ”
จากมาตรา 17 ข้างต้นจึงสังเกตได้ว่านายกรัฐมนตรีภายใต้ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พ.ศ.
2515 สามารถอ้างสภาวะฉุกเฉินที่มีเหตุการณ์ส่งผลกระทบต่อความมั่นคง เพื่อใช้อ านาจนิติบัญญัติและบริหารได้
โดยเบ็ดเสร็จ กล่าวได้ว่าเป็นการสืบทอดอ านาจเผด็จการของธรรมนูญการปกครอง พ.ศ. 2502 เพื่อการลิดรอน
อ านาจของสภานิติบัญญัติไว้ใต้การควบคุมของนายกรัฐมนตรีตราบเท่าที่ยังอยู่ในช่องว่างระหว่างที่ยังไม่มีการ
ประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับถาวรอันจะเป็นสัญญาประชาคมที่จ ากัดอ านาจของผู้น าทางการเมืองเสียเอง
ทั้งนี้ประการที่สาม ในระหว่างที่ยังไม่ได้มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับถาวร ส่งผลให้องค์กรตุลาการ
รัฐธรรมนูญหายไปจากบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ในแง่หนึ่งสะท้อนได้ถึงสภาวะสุญญากาศไร้อ านาจและหน้าที่ของ
ตุลาการรัฐธรรมนูญในขณะที่ยังใช้ธรรมนูญการปกครองไปพลางก่อน และในธรรมนูญการปกครองก็ไม่ได้บัญญัติ
อ านาจการตีความให้แก่สภานิติบัญญัติแห่งชาติเช่นกัน จึงสามารถเข้าใจได้ว่าอ านาจตีความดังกล่าวได้กลับไปอยู่
ในการควบคุมของนายกรัฐมนตรีจากคณะปฏิวัติ ควบคู่กับอ านาจออกแบบรัฐธรรมนูญโดยคณะปฏิวัติ ขณะที่สภา
นิติบัญญัติแห่งชาติไม่ได้รับอ านาจในการแก้ไขหรือตีความรัฐธรรมนูญเลย
สรุป
จากบริบทของรัฐบาลถนอมที่ไม่ได้ประสบความส าเร็จในการสืบทอดอ านาจหลังจากการประกาศใช้
รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2512 เมื่อเผชิญกับจุดแตกหักทางการเมืองที่ถนอมไม่สามารถรับมือกับการต่อรองทางการเมือง
ของนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งได้แล้ว การรัฐประหารตัวเองเพื่อรวบอ านาจกลับคืนสู่กองทัพจึงเป็นการ
ตัดสินใจของถนอม พร้อมกันกับประกาศใช้ธรรมนูญการปกครอง พ.ศ. 2515 อันได้รับการสืบทอดเจตนารมณ์จาก
ธรรมนูญการปกครอง พ.ศ. 2502 ที่สฤษดิ์และถนอมเคยน าอ านาจเบ็ดเสร็จทางปกครองจากมาตรา 17 มาบังคับ
ใช้เพื่อตอบสนองทั้งทางการเมืองและการท างานของระบบราชการที่รวดเร็วกว่าการท าตามกระบวนการปกติ