Page 136 - 23154_Fulltext
P. 136
131
สรุป
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2511 ประกาศใช้ในบริบทของการเมืองที่กองทัพเป็นใหญ่ภายใต้
“ระบอบปฏิวัติ” ของจอมพลสฤษดิ์ ที่เน้นการปกครองที่กองทัพครอบง าดูแลให้สงบ สภาร่างรัฐธรรมนูญก็
ประกอบด้วยสัดส่วนของสมาชิกที่มาจากการภาคส่วนต่าง ๆ ของกองทัพเสียส่วนมาก มีพลเรือนเพียง 30 คน โดย
การท าหน้าที่ของสภาร่างรัฐธรรมนูญแม้จะคาบเกี่ยวมายังสมัยของรัฐบาลจอมพลถนอมด้วย แต่ก็ไม่ได้ท าหน้าที่
ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญเปลี่ยนแปลงไป หากยังคงสืบทอดเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2492 อย่างหนัก
แน่นโดยสังเกตได้จากชื่อระบอบที่สถาปนาความชอบธรรมให้สืบทอดชื่อระบอบประชาธิปไตย มีพระมหากษัตริย์
เป็นประมุข ความสัมพันธ์เชิงอ านาจทั้ง 3 ส่วนได้ถูกรื้อฟื้น ได้แก่ พระราชอ านาจโต้แย้งร่างกฎหมายที่ขยาย
ระยะเวลาใช้พระราชอ านาจโต้แย้งภายใน 90 วัน และพระราชอ านาจแต่งตั้งวุฒิสมาชิกที่ได้รับการขยายจ านวน
เป็น 120 คน แล้วจึงขยายเป็น 3 ใน 4 ของจ านวนสภาผู้แทน ขณะที่ส่วนที่สอง อ านาจของวุฒิสภาได้ครอบง า
รัฐสภาและสามารถขยายอ านาจเทียบเท่าสภาผู้แทนที่มาจากการเลือกตั้ง สังเกตได้จากต าแหน่งประธานสภาที่
บังคับให้เป็นประธานวุฒิสภาเท่านั้น อ านาจเสนอร่างกฎหมายทุกแบบรวมถึงการเงิน อ านาจลงมติไม่ไว้วางใจ
รัฐบาล อ านาจการเห็นชอบของสภาต่อการแต่งตั้งผู้ส าเร็จราชการแทนหรือการสืบทอดราชสมบัติ รวมทั้งการร่วม
แก้ไขรัฐธรรมนูญ อ านาจของวุฒิสภาจึงเป็นเครื่องมือส าคัญที่ใช้ควบคุมกลไกระบบรัฐสภาภายใต้รัฐธรรมนูญ พ.ศ.
2511 นอกจากนั้นตุลาการรัฐธรรมนูญเองก็อยู่ภายใต้อ านาจน าของวุฒิสภา เนื่องจากมีทั้งประธานวุฒิสภาเป็น
ประธานตุลาการรัฐธรรมนูญ และยังมีตุลาการอีก 4 คนที่มาจากการเลือกจั้งรัฐสภาที่วุฒิสภาสามารถมีส่วนร่วมใน
การเลือกได้เช่นกัน ดังนั้นแล้วความสัมพันธ์เชิงอ านาจที่สะท้อนผ่านรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2511 จึงแสดงถึงการหวน
คืนของการถวายคืนพระราชอ านาจและขยายขอบเขตอ านาจของวุฒิสภาเพื่อรองรับการถวายคืนพระราชอ านาจ
และวุฒิสภาก็สามารถควบคุมกลไกนิติบัญญัติในระบบรัฐสภา รวมถึงคอยถ่วงดุลฝ่ายบริหารผ่านอ านาจลงมติไม่
ไว้วางใจ อันเป็นการสืบทอดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2492 ที่ต้องการควบคุมพฤติกรรมของนักการเมือง
ให้อยู่ภายใต้โครงสร้างที่ฝ่ายอนุรักษ์นิยมก ากับผ่านวุฒิสภา
4.9 ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พ.ศ. 2515
บริบททางการเมือง
หลังจากที่มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2511 แม้ว่าจะมีสังเกตได้ถึงเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญใน
การสร้างอ านาจน าของวุฒิสภาที่มาจากการแต่งตั้งทั้งชุดให้มาท าการครอบง าการเมืองของระบบรัฐสภา ภายหลัง
ประกาศใช้รัฐธรรมนูญก็มีการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร คณะปฏิวัติของถนอมได้จัดตั้งพรรค
สหประชาไทยขึ้นเป็นตัวแทนสืบทอดอ านาจ และแข่งกับพรรคประชาธิปัตย์ กลยุทธ์การสร้างพรรคของสหประชา
ไทยในเวลาสั้นจึงเป็นการดึงเอานักการเมืองมาเข้าร่วมเป็นสมาชิกพรรค ทว่าพรรคประชาธิปัตย์เองก็ได้เสียงใน
สภามากเสียจนมีความเสี่ยงต่อการควบคุมเสถียรภาพการเมืองในรัฐสภาโดยพรรคสหประชาไทย รัฐบาลถนอมต้อง
เผชิญกับความเสี่ยง 3 ประการ ได้แก่ ประการแรก การประกาศหลักการนิกสัน (Nixon Doctrine) ส่งผลให้มีการ
ถอนตัวของสหรัฐอเมริกาจากกรอบยุทธศาสตร์โลกในการส่งกองก าลังไปคุ้มครองชาติอื่นจากการท าสงครามกับ