Page 132 - 23154_Fulltext
P. 132

127


               หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ต่อมาถูกประหารชีวิตโดยอ านาจมาตรา 17 ในวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2504 ต่อหน้า

               สาธารณชนที่จังหวัดสกลนคร (ภูริ ฟูวงศ์เจริญ, 2563: 286-287 ; ไทยรัฐออนไลน์, 2562b)



                       4.8 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2511

                       บริบททางการเมือง

                       หลังจากที่มีการเปลี่ยนย้ายอ านาจสู่ “ระบอบปฏิวัติ” ของจอมพลสฤษดิ์ ระบอบดังกล่าววางอยู่บน

               แนวคิดทางการเมืองส าคัญ 2 ประการที่ ได้แก่ หลักการปฏิวัติ อันไม่ได้อยู่ในนิยามเดียวกับ “ปฏิวัติ” ที่หมายถึง
               การเปลี่ยนแปลงขั้นมูลฐานของการเมือง สังคม และเศรษฐกิจ หากแต่เป็นปฏิกิริยาเพื่อการหมุนทวนระบบ

               การเมืองสู่ธรรมเนียมการปกครองสมัยโบราณเพื่อคงไว้ซึ่งสถานะเดิมของระบบการเมืองไทย และหลักการพัฒนา
               ประเทศ ที่เป็นการพัฒนาสู่ความทันสมัยที่ควบคู่ไปกับการขยายความเป็นระบอบแบบปิตาธิปไตยที่อยู่บนฐาน

               ความสัมพันธ์แบบครอบครัวพ่อ-ลูก เป็นฐานะพ่อขุนที่ต้องรักษาความเรียบร้อยในสังคมให้แก่ลูกหลาน โดยรับ
               อิทธิพลทางความคิดมาจากเรื่องเล่าว่าด้วยความเป็นหัวหน้าชุมชนทางการเมืองที่ถือว่าพ่อเปี่ยมด้วยเมตตาแบบพ่อ

               ขุนรามค าแหง ขณะเดียวกันก็ต้องระมัดระวังไม่ให้การกระท าทางการเมืองใดไปขัดกับหลัก ความศักดิ์สิทธิ์ของ
               สังคมการเมืองไทยเสียเอง (ทักษ์ เฉลิมเตียรณ, 2526: 226-290; อุกฤษฎ์ ปัทมานันท์, 2527: 77-78)
                       ภายใต้แนวคิดทางการเมืองของจอมพลสฤษดิ์ที่เรียกว่า “ระบอบปฏิวัติ” การควบคุมเสถียรภาพทางการ

               เมืองด้วยกองทัพและความคิดแบบพ่อปกครองลูกนั้นถูกสะท้อนออกมาอย่างชัดเจนผ่านการก าหนดสภาร่าง
               รัฐธรรมนูญตามธรรมนูญการปกครอง พ.ศ. 2502 ที่เป็นสภาร่างรัฐธรรมนูญของทหารและข้าราชการ

               ประกอบด้วย ทหารบก 110 คน ทหารอากาศ 26 คน ทหารเรือ 26 คน ต ารวจ 18 คน และพลเรือนภาคราชการ
               จ านวน 30 คน โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญลงมติเลือก พลเอกสุทธิ สุทธิสารณกร รองผู้บัญชาการทหารบก เป็น

               ประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ และเลือกรองประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ 2 คน ได้แก่ สัญญา ธรรมศักดิ์ และ ทวี
               บุณยเกตุ (คมชัดลึกออนไลน์, 2557; สมชาย ปรีชาศิลปกุล, 2561: 238)

                       อย่างไรก็ตาม บริบทของกรรมการร่างรัฐธรรมนูญได้ด าเนินมาอย่างยาวนานจนกระทั่งเข้าสู่สมัยของ
               รัฐบาลจอมพลถนอม ซึ่งช่วงช่วงเวลานี้ยังคงควบคุมกระแสความพึงพอใจของประชาชนไว้ได้ด้วยการปราบปราม
               ทุจริต ขณะที่การร่างรัฐธรรมนูญมีความคืบหน้าที่ช้าจวบจนเข้าสู่ช่วงปี พ.ศ. 2510-2511 ที่มีกระแสการเรียกร้อง

               รัฐธรรมนูญ สวนทางกับความคิดเห็นของพลเอกประภาสที่เสนอกลับกันว่าประชาชนต่างหากที่ยังไม่พร้อมส าหรับ
               ประชาธิปไตย และยังมีปัญหาของลัทธิคอมมิวนิสต์ที่ต้องรับมือก่อน แม้ว่าสภาร่างรัฐธรรมนูญจะเสร็จสิ้นภารกิจ

               การร่างรัฐธรรมนูญตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2511 แต่ยังไม่ได้รับการทูลเกล้า ฯ ให้พระมหากษัตริย์ลง
               พระปรมาภิไธย จนกระทั่งได้รับแรงกดดันจากสหรัฐอเมริกาให้มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญในที่สุดเมื่อวันที่ 20

               มิถุนายน พ.ศ. 2511 (ภูริ ฟูวงศ์เจริญ, 2563: 325-327)
                       ทั้งนี้ ภายใต้บทบัญญัติของธรรมนูญการปกครอง พ.ศ. 2502 เนื้อหาส าคัญของการถกเถียงต่อการจัดท า

               รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ มีมาตราหนึ่งที่น่าสนใจ คือ “พระราชอัธยาศัย” ในการแต่งตั้งประธานองคมนตรี เนื่องจาก
   127   128   129   130   131   132   133   134   135   136   137