Page 129 - 23154_Fulltext
P. 129

124


                                                          บทที่ 5

                        รัฐสภาไทยในยุคเผด็จการทหาร และการเปลี่ยนผ่าน (พ.ศ. 2500-2520)


               5.1 ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พ.ศ. 2502


                       บริบททางการเมือง

                       บริบทการเมืองไทยช่วงปลายทศวรรษ 2490 ของรัฐบาลจอมพล ป. ได้มีความเปลี่ยนแปลงนโยบาย

               ทางการเมืองครั้งส าคัญด้วยแนวทางฟื้นฟูประชาธิปไตยอย่างน้อย 2 ด้าน ได้แก่ ด้านสังคม เป็นการคืนเสรีภาพ
               ทางการเมืองให้แก่สังคม ผ่านการเปิดเสรีภาพสื่อสิ่งพิมพ์ และให้เสรีภาพในการชุมนุมสาธารณะเพื่อเคลื่อนไหว
               วิพากษ์วิจารณ์ประเด็นใดก็ได้อย่างเสรี และด้านสถาบันการเมือง ได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติพรรค

               การเมือง พ.ศ. 2498 ซึ่งเป็นกฎหมายพรรคการเมืองฉบับแรกของไทย และมีการจัดตั้ง “พรรคเสรีมนังคศิลา” ใน
               วันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2498 มีสมาชิกหลัก ได้แก่ จอมพล ป. เป็นหัวหน้าพรรค พลต ารวจเอก เผ่า ศรียานนท์

               เป็นเลขาธิการพรรค และพลเอกสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นรองหัวหน้าพรรค (กองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม, 2565)
                        อย่างไรก็ตาม แนวทางข้างต้นของจอมพล ป. กลับขัดแย้งกับการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ.

               2500 ที่เรียกกันว่า “การเลือกตั้งสกปรก” เนื่องจากบรรยากาศช่วงเลือกตั้งได้ปรากฎภาพของความรุนแรงต่อ
               ผู้สมัครพรรคฝ่ายตรงข้ามจอมพล ป. ตัวอย่างเช่น นายบุญล้อม ศรีสุวรรณ ผู้สมัครพรรคธรรมาธิปัตย์ เขตจังหวัด

               สมุทรสาครถูกยิงบาดเจ็บและเสียชีวิตหลังได้รับเลือกตั้ง นายวีระ เศรษฐวงศ์ ผู้สมัครพรรคเศรษฐกร และนายกิตติ
               ศักดิ์ ศรีอ าไพ ผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ ต่างถูกท าร้ายจนบาดเจ็บไม่สามารถหาเสียงต่อได้ อีกทั้งในวันเลือกตั้งยัง
               ปรากฎข่าวเกี่ยวกับกลวิธีโกงเลือกตั้งจากพรรคเสรีมนังคศิลา อาทิ บัตรเลือกตั้งปลอม (ไพ่ไฟ) หรือให้คนเวียนกัน

               ลงคะแนน (พลร่ม) เป็นต้น แม้ว่าผลการเลือกตั้งจะเป็นชัยชนะของพรรคเสรีมนังคศิลาที่ได้รับเลือกตั้ง 86 ที่นั่ง
               ขณะที่ประชาธิปัตย์ได้รับ 30 จาก 160 ที่นั่งในสภา (บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ, 2563: 105) ทว่าการประนีประนอม

               ทางการเมืองของรัฐบาลจอมพล ป. สมัยหลังนี้ก็ไม่ได้ราบรื่น หากแต่เผชิญการต่อต้านจากกบฏสันติภาพ
               นักหนังสือพิมพ์ และปัญญาชนจนกระทั่งจบลงด้วยการรัฐประหารยึดโดยคณะปฏิวัติ น าโดยจอมพลสฤษดิ์ ธนะ

               รัชต์ (ภูริ ฟูวงศ์เจริญ, 2563: 241)
                       ภายหลังการรัฐประหาร คณะปฏิวัติมิได้ยกเลิกรัฐธรรมนูญ จอมพลสฤษดิ์ปฏิเสธที่จะขึ้นเป็น

               นายกรัฐมนตรีเอง แต่ได้แต่งตั้งนายพจน์ สารสิน เป็นนายกรัฐมนตรีในวันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2500 และจัดการ
               เลือกตั้งวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2500 จอมพสฤษดิ์ได้ตั้งพรรคชาติสังคมขึ้นเพื่อเป็นฐานอ านาจของคณะ
               รัฐประหาร และได้ผลักดันให้พลโทถนอมมาเป็นนายกรัฐมนตรีตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2501 ก่อนที่จะบินไป

               รักษาตัวที่สหรัฐอเมริกาและอังกฤษเป็นเวลาหลายเดือน อย่างไรก็ตาม พลโทถนอมเป็นผู้น าที่ไม่เด็ดขาด ต้อง
               เผชิญกับการตีรวนจากสมาชิกพรรคชาติสังคม ในท้ายที่สุด จอมพลสฤษดิ์ได้เดินทางกลับประเทศอย่างเงียบๆ และ

               ท ารัฐประหารอีกครั้งในวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2501 และขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนแทน ต่อมาประกาศใช้ประกาศ
               คณะปฏิวัติ 28 มกราคม พ.ศ. 2502 ไปพลาง แล้วหลังจากนั้นจึงได้ประกาศใช้ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร

               ไทย พ.ศ. 2502 ซึ่งเป็นธรรมนูญการปกครองเพื่อควบคุมกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญโดยสภาร่างรัฐธรรมนูญที่
   124   125   126   127   128   129   130   131   132   133   134