Page 110 - 23154_Fulltext
P. 110
105
ให้มีการแต่งตั้งคณะตุลาการรัฐธรรมนูญใหม่ทุกครั้งเมื่อได้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
เพราะเหตุที่สมาชิกผู้แทนนหมดอายุหรือถูกยุบ
วิธีพิจารณาของคณะตุลาการรัฐธรรมนูญให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น”
และยังมีอ านาจและหน้าที่ตามมาตรา 88 อันเป็นการจัดสรรไม่ให้เกิดความทับซ้อนในอ านาจและหน้าที่
เกี่ยวกับคดีที่เกี่ยวข้องกับการตีความรัฐธรรมนูญ ดังนี้
“มาตรา 88 ในการที่ศาลจะใช้บทกฎหมายบังคับแก่คดีใด ถ้าศาลเห็นว่าบทกฎหมายนั้นต้องด้วย
บทบัญญัติมาตรา 87 ก็ให้ศาลรอการพิจารณาพิพากษาคดีนั้นไว้ชั่วคราว แล้วให้รายงานความเห็นเช่นว่า
นั้นตามทางการไปยังคณะตุลาการรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัย เมื่อคณะตุลาการรัฐธรรมนูญพิจารณา
วินิจฉัยแล้ว ให้แจ้งให้ศาลทราบ
ค าวินิจฉัยของคณะตุลาการรัฐธรรมนูญให้ถือเป็นเด็ดขาดและให้ศาลปฏิบัติตามนั้น”
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วจึงสังเกตได้ว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้มีเจตนารมณ์ที่จะให้สภาผู้แทนราษฎรมีบทบาทสัมพันธ์
โดยตรงกับการตีความรัฐธรรมนูญ เนื่องจากเป็นสถาบันการเมืองที่สัมพันธ์กับการเป็นตัวแทนของประชาชน เช่นนี้
แล้วสภาผู้แทนในฐานะตัวแทนของประชาชนแต่ละสมัยจึงได้รับอ านาจในการแต่งตั้งคณะกรรมการตุลาการ
รัฐธรรมนูญเพื่อท าหน้าที่ในการตีความวินิจฉัยข้อกฎหมายที่อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ แทนที่จะเป็นหน้าที่ขององค์กร
ศาลที่จะรับหน้าที่ตีความรัฐธรรมนูญเอง
สรุป
เมื่อพิจารณาความสัมพันธ์เชิงอ านาจของระบบรัฐสภาภายใต้รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2489 สังเกตได้ใน 2
ประเด็นใหญ่ ได้แก่
1) บริบทวัฒนธรรมการเมืองในช่วงก่อนจะมีการร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2489 เป็นบรรยากาศของการ
เปลี่ยนผ่านจากความขัดแย้งระหว่างคณะราษฎรกับกลุ่มนิยมเจ้า สู่การสร้างเสถียรภาพทางอ านาจในระยะยาว
ของคณะราษฎร จนในที่สุดเกิดบรรยากาศของการประนีประนอมทางการเมืองด้วยการออกแบบรัฐธรรมนูญใหม่
ให้รองรับกับความเปลี่ยนแปลงเพื่อการประนีประนอมของคณะราษฎรฝ่ายพลเรือนกับฝ่ายอนุรักษ์นิยมเพื่อคาน
อ านาจกับฝ่ายทหารที่ครองอ านาจน าทางการเมือง รัฐธรรมนูญฉบับวัฒนธรรมในห้วงเวลา พ.ศ. 2489 จึงเป็นการ
เปิดกว้างต่อบทบาททางการเมืองของกลุ่มเจ้านาย รวมถึงมีการเปลี่ยนแปลงเชิงสถาบันให้เกิดการตรวจสอบถ่วงดุล
ทางอ านาจมากยิ่งขึ้น
2) สถาบันการเมืองที่ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อสนับสนุนระบบการตรวจสอบถ่วงดุลใหม่ในรัฐธรรมนูญฉบับนี้
จึงประกอบด้วย ระบบสภาคู่ที่มีพฤฒสภาเพิ่มเข้ามา และคณะตุลาการรัฐธรรมนูญเพื่อการตีความรัฐธรรมนูญ โดย
แบ่งเป็น พฤฒสภาในระบบสภาคู่ ซึ่งมีความส าคัญทั้งบทบาทการร่วมตรวจสอบและแสดงความคิดเห็นต่อร่าง
กฎหมายที่สภาผู้แทนราษฎรเสนอ เป็นการสร้างความสัมพันธ์เชิงอ านาจที่มีอ านาจในเชิงนิติบัญญัติในการ
ประนีประนอมไม่ให้ร่างกฎหมายที่จะประกาศใช้งานนั้นออกนอกกรอบความสมเหตุสมผลจนเกินไป ตลอดจนการ
แก้ไขรัฐธรรมนูญตามมาตรา 85 ก็จ าเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากพฤฒสภาเช่นกัน