Page 108 - 23154_Fulltext
P. 108
103
แต่ในบทเฉพาะกาล ก าหนดให้สมาชิกพฤฒสภามาจากการเลือกตั้งทางอ้อมโดยองค์การเลือกตั้งพฤฒสภา
ซึ่งรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2489 ให้สภาผู้แทนราษฎรท าหน้าที่เลือกตั้งสมาชิกพฤฒสภาชุดแรกเป็นการเฉพาะกิจ และมี
อ านาจในการเลือกนายกรัฐมนตรีร่วมกับสภาผู้แทนราษฎร (ภูริ ฟูวงศ์เจริญ, 2563: 179)
ขณะที่เมื่อพิจารณาความสัมพันธ์เชิงอ านาจระหว่างพฤฒสภากับแต่ละสถาบันการเมือง ใน 2 รูปแบบ
ความสัมพันธ์ สามารถพิจารณาได้ดังต่อไปนี้
รูปแบบความสัมพันธ์แรก เป็นการพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างพฤฒสภากับพระมหากษัตริย์ จะสังเกต
ได้ว่า พฤฒสภาจะได้รับอ านาจและหน้าที่เป็นตัวแทนชั่วคราวให้แก่องค์พระมหากษัตริย์ ไม่ว่าจะเป็นในมาตรา 10
ว่าด้วยการตั้งผู้ส าเร็จราชการแทนพระองค์ ในกรณีที่พระมหากษัตริย์มิได้ทรงแต่งตั้งผู้ส าเร็จราชการแทนพระองค์
ระหว่างที่รอให้รัฐสภาปรึกษากันแต่งตั้งผู้ส าเร็จราชการ ให้สมาชิกพฤฒสภาผู้มีอายุสูงสุด 3 คนประกอบกันเป็น
คณะผู้ส าเร็จราชการแทนพระองค์ขั้นชั่วคราว และในมาตรา 11 ก าหนดให้ “ในกรณีราชบัลลังก์หากว่างลง และ
มิได้มีผู้ส าเร็จราชการแทนพระองค์ตั้งไว้ตามความในมาตรา 10 ให้สมาชิกพฤฒสภาผู้มีอายุสูงสุด 3 คนประกอบ
เป็นคณะผู้ส าเร็จราชการแทนพระองค์ขึ้นชั่วคราว” เช่นนี้แล้วจึงสังเกตได้ว่า พฤฒสภาถูกก าหนดบทบาททางการ
เมืองให้เป็นผู้รักษาการในกรณีฉุกเฉินเพื่อทดแทนช่องว่างทางอ านาจในสถานการณ์ที่ประมุขไม่ได้ถือครองอ านาจ
และไม่ได้แต่งตั้งผู้ส าเร็จราชการแทนพระองค์ในช่วงเวลานั้น โดยอิงความชอบธรรมจากการเป็นสถาบันการเมือง
ที่มาจากการเลือกตั้งและมีความอาวุโสในรัฐสภา ความสัมพันธ์ที่พฤฒสภามีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์จึงเป็นใน
ลักษณะของการช่วยป้องกันสภาวะสุญญากาศทางอ านาจ
รูปแบบความสัมพันธ์แบบที่สอง เมื่อพิจารณาที่ระบบรัฐสภาที่เปลี่ยนมาเป็นระบบสองสภา ความสัมพันธ์
เชิงอ านาจระหว่างพฤฒสภากับสภาผู้แทนราษฎรจึงพิจารณาได้ในรูปแบบความสัมพันธ์ที่เสมอภาคในการท างาน
ร่วมกับสภาผู้แทนราษฎร โดยได้รับอ านาจและหน้าที่ทางนิติบัญญัติตามมาตรา 52 ดังนี้
“มาตรา 52 ร่างพระราชบัญญัติให้เสนอต่อสภาผู้แทนก่อน เมื่อสภาผู้แทนได้พิจารณาลงมติให้
ใช้ได้แล้ว ให้น าเสนอต่อพฤฒสภา ถ้าพฤฒสภาลงมติเห็นชอบด้วยโดยไม่แก้ไขแล้วก็ให้ด าเนินต่อไปตาม
ความในมาตรา 20
ถ้าหากพฤฒสภาลงมติไม่เห็นชอบด้วย ก็ให้ส่งร่างพระราชบัญญัตินั้นกลับคืนมาให้สภา
ผู้แทนราษฎรพิจารณาใหม่ ถ้าสภาผู้แทนลงมติเห็นชอบตามพฤฒสภาแล้วก็ถือว่าร่างพระราชบัญญัตินั้น
เป็นอันตกไป
ถ้าหากพฤฒสภาลงมติให้แก้ไขเพิ่มเติม ก็ให้ส่งร่างพระราชบัญญัตินั้นกลับคืนมาให้สภาผู้แทน
พิจารณาใหม่ ถ้าสภาผู้แทนลงมติเห็นชอบตามที่พฤฒสภาแก้ไขเพิ่มเติมมา ก็ให้ด าเนินการต่อไปในความ
มาตรา 20
ถ้าหากสภาผู้แทนลงมติยืนยันตามเดิมในร่างพระราชบัญญัติที่ส่งกลับคืนมาตามความในวรรค
สอง หรือวรรคสามด้วยคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งของจ านวนสมาชิกทั้งหมดแล้ว ก็ให้ถือว่าร่าง
พระราชบัญญัตินั้นเป็นอันได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา และให้ด าเนินการต่อไปตามความในมาตรา
20”