Page 107 - 23154_Fulltext
P. 107

102


                       นอกจากนี้ การออกแบบพฤฒสภาในรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2489 ได้กลายเป็นประเด็นที่มีการต่อสู้กันในหมู่

               ผู้น าพลเรือนระหว่างฝ่ายนายปรีดี พนมยงค์ กับฝ่ายนายควง อภัยวงศ์ ตามบทบัญญัติในมาตรา 54 ให้พฤฒสภา
               และสภาผู้แทนราษฎรมีอ านาจควบคุมราชการแผ่นดินตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้ ฝ่ายนายควง อภัยวงศ์ ไม่
               อาจเห็นชอบด้วย โดยนายโชติ คุ้มพันธ์ ได้แปรญัตติเสนอให้ตัดพฤฒสภาออก ผลการลงมติมีคะแนน 57 เท่ากัน

               ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้ลงคะแนนเสียงชี้ขาดให้เป็นไปตามร่างเดิม ส่วนในมาตรา 56 ก าหนดให้สภา
               ผู้แทนราษฎรสามารถเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคคลหรือคณะ ฝ่ายนายปรีดี พนมยงค์ต้องการผลักดัน

               ให้พฤฒสภามีอ านาจนี้ด้วย โดยนายถวิล อุดล ได้แปรญัตติ ผลการลงมติปรากฏว่ามีคะแนน 58 เท่ากัน
               ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้ลงคะแนนเสียงชี้ขาดให้เป็นไปตามร่างเดิม ส่วนในมาตรา 69 ก าหนดให้การแถลง

               นโยบายบริหารราชการแผ่นดิน คณะรัฐมนตรีต้องได้รับความไว้วางใจจากรัฐสภาซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎร
               และพฤฒสภา ฝ่ายนายควง อภัยวงศ์ ไม่อาจเห็นพ้องด้วยและได้แปรญัตติให้ตัดพฤฒสภาออก ผลการลงมติปรากฏ

               ว่า ฝ่ายนายปรีดี พนมยงค์ ซึ่งต้องการยืนยันร่างเดิมเป็นฝ่ายชนะด้วยคะแนน 64-63 อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าใน
               ท้ายที่สุดสภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2489 อย่างท่วมท้น แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงความ
               ขัดแย้งในหมู่ผู้น าพลเรือนด้วยเช่นกัน (สรศักดิ์ งามขจรกุลกิจ, 2531: 227, 230)



                       โครงสร้างและอ านาจหน้าที่ของรัฐสภาตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ

                       เนื้อหาตัวบทของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2489 ส่วนใหญ่จะยังคงเดิมจากรัฐธรรมนูญแห่ง
               สยาม พ.ศ. 2475 ส่วนที่บัญญัติเพิ่มมาใหม่และมีความส าคัญต่อการพิจารณาระบบรัฐสภาของไทยในรัฐธรรมนูญ

               ฉบับนี้โดยหลักจะเป็นประเด็นของการบัญญัติให้มี “พฤฒสภา” ระบบสภาคู่ของไทยในรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2489 จึง
               ประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและพฤฒสภา ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2489 โดยพฤฒสภาจะ

               มีคุณสมบัติตามมาตรา 24
                              “มาตรา 24 พฤฒสภาประกอบด้วยสมาชิกที่ราษฎรเลือกตั้ง มีจ านวน 80 คน

                       สมาชิกพฤฒสภาจะต้องไม่เป็นข้าราชการประจ า
                       การเลือกตั้งพฤฒสภา ให้ใช้วิธีลงคะแนนออกเสียงเลือกตั้งโดยอ้อมและลับ”

                       และยังมีคุณสมบัติเพิ่มเติมตามมาตรา 25 ได้แก่ ข้อแรก อายุไม่ต่ ากว่า 40 ปีบริบูรณ์ และข้อสอง มีวิทย
               ฐานะไม่ต่ ากว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่ามาแล้วไม่ต่ ากว่า 5 ปี หรือเคยด ารงต าแหน่งทางราชการมาแล้วไม่ต่ ากว่า

               หัวหน้ากองหรือเทียบเท่า หรือเคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนหรือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาแล้ว
                       นอกจากนั้นวาระการด ารงต าแหน่งของพฤฒสภาจะเป็นคราวละ 6 ปี ทว่ามีข้อก าหนดให้สับเปลี่ยน

               สมาชิกคราวละ 3 ปีเพื่อป้องกันการครองอ านาจการเมืองในรัฐสภาระยะยาว โดยมีรายละเอียดตามมาตรา 26
                       “มาตรา 26 สมาชิกภาพแห่งพฤฒสภา มีก าหนดเวลาคราวละ 6 ปี ฉะเพาะในระยะเริ่มแรกเมื่อครบ

               ก าหนด 3 ปี ให้มีการเปลี่ยนสมาชิกกึ่งหนึ่งโดยวิธีจับสลาก แต่ผู้ที่ออกไปมีสิทธิได้รับเลือกตั้งกลับมาอีก”
   102   103   104   105   106   107   108   109   110   111   112