Page 62 - 22665_Fulltext
P. 62

45


                                  ทางภาคเหนือมีระบบที่เรียกว่า “แก่เหมือง แก่ฝาย” ซึ่งบทบาทจะเน้นไปในเรื่องหลัก
                       ของการแก้ปัญหา แบ่งปันทรัพยากรน้ า แก่เหมือง แก่ฝายเป็นผู้น าชาวบ้านในการจัดการน้ า เป็นผู้ที่

                       ลงมือท างานก่อนคนอื่น นอกจากนี้ การไกล่เกลี่ยของกลุ่มชาติพันธุ์ในภาคเหนือ ชนเผ่าต่าง ๆ จะมี

                       ระบบการไกล่เกลี่ยข้อขัดแย้งในหมู่บ้านหรือในชุมชนของตนเอง โดยมีการใช้มิติวัฒนธรรม ระบบ
                       ความเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิเข้ามาร่วมด้วย เช่น ระบบความเชื่อเรื่องผี เทวดา เป็นต้น ท าให้คนในชุมชน

                       ชาติพันธุ์ต่าง ๆ มักจะให้ความเคารพและปฏิบัติตามข้อตกลงที่ได้ ส าหรับวิธีการในการหาคนกลาง

                       ของกลุ่มชาติพันธุ์มีความแตกต่างกันไปตามบริบทพื้นที่ แต่โดยทั่วไปในหมู่บ้านจะมีผู้น าชุมชนที่กลุ่ม
                       ชาติพันธุ์ให้ความยอมรับร่วมกัน ซึ่งมีทั้งผู้น าที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ เมื่อเกิดความขัดแย้ง

                       ขึ้นคู่กรณีหรือผู้ที่เกี่ยวข้องจะไปหาผู้น าดังกล่าว และบางครั้งจะมีการไกล่เกลี่ยกันที่บ้านของผู้น า
                                  การไกล่เกลี่ยในบริบทของภาคใต้ ควรเข้าใจถึงวิถีชีวิตของคนใต้ งานของฉัตรทิพย์ นาค

                       สุภาและพูนศักดิ์ ชวนิกรกรประดิษฐ์ (2540) อ้างถึงใน วิชัย กาญจนสุวรรณ (2547) ได้อธิบาย
                       หมู่บ้านภาคใต้ฝั่งตะวันออกในอดีตว่ามีการผลิต 3 ลักษณะคือ

                                  1) หมู่บ้านท านามีมากสุดในจังหวัดนครศรีธรรมราชสงขลาและพัทลุงซึ่งถือว่าเป็นแหล่ง

                       ปลูกข้าวที่ส าคัญที่สุดของภาคใต้
                                  2) หมู่บ้านท าประมงมักจะเป็นหมู่บ้านชาวมุสลิมนับถือศาสนาอิสลามที่อาศัยอยู่ริม

                       ทะเลใช้เครื่องมือหาปลาอย่างง่ายๆเช่นวางเบ็ดวังไทรและวางอวนโดยใช้เรือขนาดเล็กออกเรือทุกวัน

                       ยกเว้นวันศุกร์เพื่อท าละหมาด โดยทั่ว ๆ ไปชุมชนประมงจะไม่มีที่ดินปลูกข้าวจะใช้ปลาแลกข้าวจาก
                       ชุมชนท านา

                                  3) หมู่บ้านท าสวนชุมชนเหล่านี้ท าไร่เลื่อนลอยเก็บผลไม้ป่ามาบริโภคส่วนมากจะอยู่ใกล้
                       เนินเขาลึกเข้าไปในป่าเช่นอ าเภอพิปูนอ าเภอฉวางในจังหวัดนครศรีธรรมราชอ าเภอกงหราจังหวัด

                       พัทลุงเป็นต้น
                                  และในงานชิ้นเดียวกัน วิชัย กาญจนสุวรรณ (2547)  ได้กล่าวถึง โลกทัศน์ของชาวไทย

                       ภาคใต้ คือ (1) นิยมความจริงใจและตรงไปตรงมา (2) นิยมยกย่องผู้อาวุโสให้ความเคารพนับถือ

                       ผู้สูงอายุ (3) นิยมความเป็นกันเองไม่ยกย่องระบบเจ้าขุนมูลนาย (4) นิยมการมีคู่ครองคนเดียวแม้ใน
                       กลุ่มชาวมุสลิมจะมีบทอนุญาตให้ผู้ชายมีภรรยาได้ถึง 4 คนแต่มีผู้ปฏิบัติไม่มากนัก (5) นิยมความ

                       อิสระเสรีชอบมีอะไรเป็นของตนเอง (6) นิยมความสนุกรื่นเริงในหมู่เพื่อนฝูงสังเกตได้จากงานหรือ

                       พิธีกรรมต่าง ๆ (7) นิยมในบทบาทของสตรี (8) นิยมรักญาติพี่น้องเก้านิยมรักพวกพ้องตนเอง (9)
                       นิยมความเป็นนักเลงใจกว้างใจถึง

                                  นอกจากนี้การศึกษาชุมชน ควรเข้าใจมิติของวัฒนธรรมชุมชน งานของ บุษบง ชัยเจริญ
                       วัฒนะ (2547) ได้กล่าวไว้ว่า วัฒนธรรมชุมชนจะเกี่ยวโยงกับการบริหารจัดการปัญหาทุกเรื่องของ

                       ชุมชนซึ่งรวมถึงปัญหาความขัดแย้ง ได้แก่
   57   58   59   60   61   62   63   64   65   66   67