Page 63 - 22665_Fulltext
P. 63

46


                                  1) ลักษณะการสืบสานวัฒนธรรมชุมชนที่ยาวนาน มีการถ่ายทอดจากคนรุ่นหนึ่งไปสู่อีก
                       รุ่นหนึ่งอย่างต่อเนื่องลักษณะวัฒนธรรมชุมชนเช่นนี้ได้แก่กติกาในการใช้ทรัพยากรที่ชุมชนก าหนดขึ้น

                       เป็นกติกาหรือกฎระเบียบที่ชุมชนยอมรับร่วมกัน ซึ่งหากมีปัญหาความขัดแย้งในการใช้ทรัพยากร

                       เกิดขึ้นในหมู่บ้านกติกาที่เป็นที่ยอมรับร่วมกันเหล่านี้จะเป็นตัวตัดสินหรือยุติข้อพิพาท (บุษบง ชัย
                       เจริญวัฒนะ, 2547)

                                  2) วัฒนธรรมชุมชนในด้านของคุณธรรม โดยเฉพาะการที่คนในชุมชนคิดถึงประโยชน์

                       ส่วนรวมชอบช่วยเหลือส่วนรวม สมัครใจเสียสละ และหากมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นวัฒนธรรมเช่นนี้จะ
                       ช่วยให้เกิดการประนีประนอมให้แก่กัน

                                  3) ระบบความสัมพันธ์แบบพี่น้องซึ่งเป็นความสัมพันธ์แบบแนวราบที่ไม่มีความแตกต่าง
                       ทางชนชั้น ช่วยเหลือเกื้อกูลกันบนฐานของความปรารถนา ดีต่อกัน

                                  4) ความรู้สึกของคนในชุมชนที่ต าหนักและภาคภูมิใจในคุณค่าวัฒนธรรมชุมชนของ
                       ตนเอง ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมที่เป็นความรู้ภูมิปัญญาประเพณีระเบียบกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ความรู้สึก

                       เช่นนี้ ของคนในชุมชนเป็นเครื่องมือในการควบคุมหรือจัดระเบียบสังคมรวมถึงการป้องกันหรือระงับ

                       ข้อพิพาทที่มีประสิทธิภาพ
                                  นอกจากการเข้าใจมิติวัฒนธรรมแล้ว การศึกษาการไกล่เกลี่ยตามกรอบของกฎหมายใน

                       ชุมชนนั้น  มีการไกล่เกลี่ยในอ าเภอ ในต าบลและหมู่บ้านตามกรอบของกฎหมาย  ในอดีต จาก

                       พระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พุทธศักราช 2457 หน้าที่ไกล่เกลี่ยความแพ่งเป็นของ
                       นายอ าเภอ มาตรา 108  สรุปสาระส าคัญได้ว่า  นายอ าเภอมีอ านาจฝ่ายตุลาการ ในทางความแพ่ง

                       ความแพ่งที่มีทุนทรัพย์ที่พิพาท ไม่เกินสองหมื่นบาท โดยถ้าคู่กรณีตกลงยอมกันแล้วให้นายอ าเภอจด
                       ข้อความที่ตกลงกัน และให้คู่กรณีทั้งสองฝ่ายกับนายอ าเภอลงลายมือชื่อในใบยอมนั้น แล้วมอบให้ทั้ง

                       สองฝ่ายถือไว้ฝ่ายละฉบับ ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ปฏิบัติตามยอม ให้อีกฝ่ายหนึ่งน าใบยอมนั้นไปยื่นฟ้อง
                       ต่อศาลยุติธรรม เพื่อขอให้ศาลยุติธรรมพิพากษาตามยอมได้ ต่อมาได้มีแนวความคิดในการให้ส่วน

                       ท้องถิ่นช่วยเหลือระงับข้อพิพาทมากยิ่งขึ้น ดังจะเห็นได้จากการออกข้อบังคับกระทรวงมหาดไทย ว่า

                       ด้วยการปฏิบัติงานประนีประนอมข้อพิพาทของของคณะกรรมการหมู่บ้าน พ.ศ. 2530 ออกตามความ
                       ในพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457  มาตรา 5 ก าหนดให้คณะกรรมการหมู่บ้านท า

                       การประนีประนอมข้อพิพาท สรุปสาระส าคัญได้ว่า ให้คณะกรรมการหมู่บ้านท าการประนีประนอมข้อ

                       พิพาทได้เกี่ยวกับความแพ่งหรือความอาญาที่เป็นความผิดอันยอมความได้
                                  ในปัจจุบันมีพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 แก้ไขเพิ่มเติม

                       (ฉบับที่7) พ.ศ. 2550 และกฎกระทรวงว่าด้วยการไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาททางแพ่ง พ.ศ.
                       2553 และกฎกระทรวงว่าด้วยการไกล่เกลี่ยความผิดที่มีโทษทางอาญา พ.ศ.2553  มาตรา 61/2

                       บัญญัติให้ข้อตกลงตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นมีผลเช่นเดียวกับ ค าชี้ขาดของ
   58   59   60   61   62   63   64   65   66   67   68