Page 35 - 22665_Fulltext
P. 35

18


                                  ดังนั้นการศึกษาชุมชนสันติสุขจึงต้องให้ความส าคัญกับความเป็นท้องถิ่น เอกลักษณ์
                       เฉพาะถิ่น ขณะเดียวกันก็ยังจ าเป็นที่ต้องเข้าใจถึงการศึกษาจากสากลในการมองสันติสุขในชุมชน

                       งานวิจัยเรื่องนี้เน้นที่การวิเคราะห์ความขัดแย้งและการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในบริบทของชุมชนสันติสุข

                       ที่แตกต่าง เพื่อเปรียบเทียบความเหมือนและความแตกต่างของการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในพื้นที่ที่มี
                       ความหลากหลายทางพหุวัฒนธรรม กล่าวคือ ทางชาติพันธุ์เขมร ลาว ส่วย เยอ แบบภาคตะวันออก

                       เฉียงเหนือ บ้านทับทิมสยาม ศรีสะเกศและ อัตลักษณ์ที่แตกต่างระหว่างไทยพุทธกับมุสลิมในทางใต้

                       ของประเทศไทย การที่จะจัดการความขัดแย้งด้วยกระบวนการของคนกลางในชุมชน จ าเป็นต้อง
                       เข้าใจปรากฎการณ์แวดล้อมที่เกิดขึ้นในชุมชน แม้กระทั่งความขัดแย้งเล็กน้อยที่กระทบกระทั่งกันใน

                       ชุมชนก็ยังจ าเป็นต้องเข้าใจความเป็นมาของเหตุการณ์ มิพักต้องกล่าวถึงความขัดแย้งที่ถึงตาย หรือ
                       ความขัดแย้งที่กระทบต่อคนในชุมชนในวงกว้างยิ่งมีความที่ต้องเข้าใจชุมชนอย่างลึกซึ้ง


                       2.2 การจัดการความขัดแย้ง
                                  ในหัวข้อการจัดการความขัดแย้งจะน าเสนอประเด็นประกอบด้วย 1. ความหมายของ

                       ความขัดแย้ง 2. ประเภท/เหตุปัจจัยของความขัดแย้ง 3. พลวัตของความขัดแย้ง และ 4. รูปแบบ

                       วิธีการที่ใช้ในการจัดการความขัดแย้ง 5. การวิเคราะห์ความขัดแย้งอย่างเป็นระบบ
                                  2.2.1 ความหมายของความขัดแย้ง

                                        เมื่อกล่าวถึงความขัดแย้งหลายคนจะรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่ความ

                       จริงแล้วความขัดแย้งเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่อยู่คู่กับมนุษย์ไม่ว่าจะในระดับบุคคลหรือในระดับ
                       สังคม นักวิชาการด้านการจัดการความขัดแย้งหลายท่านเห็นว่า ความขัดแย้งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเสมอ

                       และไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เมื่อมนุษย์มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน ความขัดแย้งบางครั้งก่อให้เกิด
                       ประโยชน์ในการได้แนวคิดใหม่ๆ และการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นได้ แต่บางครั้งถ้าจัดการไม่ดีก็

                       สามารถท าให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงได้เช่นกัน สาเหตุความขัดแย้งที่เกิดขึ้นอธิบายได้ด้วย
                       หลายตัวแปร เช่น ตัวแปรสภาพภูมิศาสตร์อันก่อให้เกิดข้อพิพาทด้านพรมแดนระหว่างประเทศ ตัว

                       แปรทางสังคมและเศรษฐกิจท าให้เกิดการช่วงชิงทรัพยากร ตัวแปรทางวัฒนธรรมอันก่อให้เกิดปัญหา

                       เชื้อชาติ เป็นต้น
                                  ความหมายความขัดแย้ง คือปรากฏการณ์ ที่มีบุคคลตั้งแต่สองคนหรือสองกลุ่มขึ้นไป ที่

                       มีเป้าหมายหรือจุดยืนที่เข้ากันไม่ได้ อีกทั้ง ทั้งสองฝ่ายมิได้อยู่นิ่งเฉยแต่มีการแข่งขัน เพื่อให้ได้ชัยชนะ

                       การเกิดความขัดแย้งขึ้นได้จึงต้องมีทั้ง 3 องค์ประกอบ เกิดขึ้นพร้อมกัน คือ มีคนสองคนหรือสองกลุ่ม
                       ขึ้นไป มีเป้าหมายที่เข้ากันไม่ได้ (Incompatible Goal) และ มีการแข่งขันหรือต่อสู้เอาชนะกัน หาก

                       ขาดองค์ประกอบใด เช่น ไม่มีการแข่งขันหรือต่อสู้เอาชนะปรากฏการณ์นั้น ก็เป็นเพียงความเห็นต่าง
                       (Differences) (บรรพต  ต้นธีรวงศ์, 2558, น.180) แม้ว่าความขัดแย้งจะเกิดขึ้นเป็นปกติใน

                       ชีวิตประจ าวันของเรา แต่ความขัดแย้งที่ไม่ปกติคือความขัดแย้งที่ยืดเยื้อเรื้อรัง Edward Azar (1990)
   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40