Page 80 - 22353_Fulltext
P. 80

รับเงินเพื่อแลกกับคะแนนเสียง และอาจเป็นจุดตั้งต้นที่จะเชื่อมโยงไปสู่การพูดคุยกันเพื่อสร้างการหาเสียง

               อย่างสร้างสรรค์ไม่ซื้อสิทธิขายเสียงต่อไปในอนาคต


                       6) การฟ้องร้องคดีความเกี่ยวกับการเลือกตั้งลดลงหรือไม่เพิ่มขึ้นจากเดิม


                       ผลการศึกษาที่ชี้ให้เห็นว่าจำนวนของคดีความเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่ไม่ได้ลดลงไปจากเดิม ทว่าก็ไม่ได้
               เพิ่มขึ้นจากเดิมเช่นเดียวกัน ผลการสัมภาษณ์ผู้มีสิทธิเลือกตั้งชี้ให้เห็นว่าการหาเสียงในครั้งนี้แตกต่างจากการ

               หาเสียงในครั้งก่อน (ปี 2555) เนื่องจากไม่มีการปราศรัยในลักษณะโจมตีผู้สมัครฝ่ายตรงข้าม การหาเสียงเน้น

               ไปที่ตัวผู้สมัคร ผลงานที่ผ่านมาของผู้สมัคร และนโยบายของผู้สมัครเป็นหลัก นอกจากนั้น ประเด็นที่น่าสนใจ

               อีกประการ ในการศึกษาเรื่องนี้พบว่าท่ามกลางความพยายามรณรงค์ให้เกิดการเลือกตั้งสมานฉันท์และไม่ซื้อ

               สิทธิขายเสียง และบรรยากาศที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งยอมรับถึงความล่าช้าในการมาถึงของทรัพย์สินบางอย่างที่
               ผู้สมัครมักจะมอบให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในฤดูกาลเลือกตั้ง รวมไปถึงการยอมรับอย่างตรงไปตรงมาของผู้มีสิทธิ

               เลือกตั้งบางรายที่ว่าหากมีการมอบเงินพวกเขาจะรับไว้แต่การตัดสินใจเลือกยังเป็นอิสระของพวกเขาไม่ได้

               รับปากว่าจะลงคะแนนให้กับผู้ที่มอบเงิน สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงทางความคิดของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง

               ที่ไม่ได้ให้คุณค่ากับเงินสูงเท่ากับความสามารถความดีและคุณสมบัติอื่นๆของผู้สมัคร ซึ่งจำนวนของผู้มีสิทธิ

               เลือกตั้งที่อยู่ระหว่างร้อยละ 60-70 นั้น จึงสามารถอนุมานได้ว่าแท้จริงแล้วการไปใช้สิทธิของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง

               อาจไม่เกี่ยวกับว่าผู้มีสิทธิได้รับเงินทองหรือไม่ แต่พวกเขาเลือกที่จะไปเพราะว่าเป็นหน้าที่และไปใช้สิทธิของตน
               อยู่แล้ว ส่วนผู้ที่ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการไปใช้สิทธิไม่ได้มากกว่า ไม่ใช่ความตั้งใจที่จะไม่ไป

               ใช้สิทธิเลือกตั้ง ปรากฏการณ์นี้จึงมีความน่าสนใจว่าคำกล่าวที่ว่า “เงินไม่มา กาไม่เป็น” แท้จริงแล้วอาจกำลัง

               เกิดความเปลี่ยนแปลงไปก็เป็นได้ สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าสถานการณ์การหาเสียงเลือกตั้งด้วยวิธีการแจกทรัพย์สิน

               เงินทองเพื่อแลกกับคะแนนเสียงนั้นแม้จะไม่เปลี่ยนแปลงไปหรือลดลงไปในทันทีแต่สถานการณ์ก็มีการ

               เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นและควรมีการรณรงค์อย่างต่อเนื่อง

                       กล่าวโดยสรุป ผลการศึกษาที่ผ่านมาชี้ให้เห็นว่ากระบวนการส่งเสริมการเลือกตั้งสมานฉันท์และไม่ซื้อ

               สิทธิขายผ่านการจัดเวทีสานเสวนาหาทางออกตามแนวทางประชาธิปไตยแบบปรึกษาหารือนั้น สามารถ

               ส่งเสริมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตามเป้าหมายที่ผู้วิจัยกำหนดไว้ได้ กล่าวคือ สามารถส่งเสริมความรู้ความเข้าใจ

               ของผู้ที่เข้าร่วมเวทีเสวนาได้ สามารถกระตุ้นให้ผู้เข้าร่วมเวทีเสวนาเกิดความตื่นตัวและมีการขยายผลบอกต่อ

               โครงการนี้ต่อไปได้ สามารถสร้างความตระหนักให้แก่ผู้สมัครเห็นความสำคัญของการหาเสียงเชิงสร้างสรรค์ไม่

               โจมตีฝ่ายตรงข้ามได้ สามารถส่งเสริมให้เกิดการยอมรับผลการเลือกตั้งและความสมานฉันท์ได้ อย่างไรก็ตาม

               ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจำเป็นต้องได้รับการส่งเสริมอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ความเปลี่ยนแปลงมีความชัดเจน
               และขยายผลไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตในด้านอื่นๆอย่างเป็นรูปธรรม







                                                                                                       79
   75   76   77   78   79   80   81   82   83   84   85