Page 77 - 22353_Fulltext
P. 77
2) ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเข้าใจโครงการและยินดีเข้าร่วมเวทีสานเสวนาหาทางออก
ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่าแม้กลุ่มเป้าหมายหลักทั้ง 3 กลุ่มซึ่งประกอบด้วย หน่วยงานราชการ ผู้สมัคร
รับเลือกตั้ง และผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ต่างก็มีผลประโยชน์ที่แตกต่างกัน แต่สุดท้ายแล้วทั้ง 3 ฝ่ายก็ยินดีที่จะเข้าร่วม
ในเวทีสานเสวนาหาทางออกในการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิและนายกเทศมนตรีเมือง
ชัยภูมิที่ผ่านมา หากพิจารณาถึงกระบวนการดำเนินโครงการจะพบได้ว่าระยะก่อนเริ่มต้นโครงการซึ่งนับตั้งแต่
ที่ผู้วิจัยได้เริ่มต้นพูดคุยกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเพื่อสร้างความเข้าใจและเชิญชวนเข้าร่วมเวทีเสวนานั้นมี
ความสำคัญอย่างยิ่งและสุ่มเสี่ยงไม่น้อยที่ผู้สมัครซึ่งเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องสำคัญของกระบวนการนี้จะปฏิเสธ
การเข้าร่วมเวทีเสวนา ทั้งนี้เพราะเป้าหมายสำคัญของผู้สมัครอยู่ที่ชัยชนะเพื่อได้พวกตนได้มีโอกาสเข้ามา
ดำเนินโครงการนโยบายตามที่พวกเขาคาดหวัง ดังนั้น การที่ผู้วิจัยเข้าไปทำความเข้าใจและสร้างมุมมองใหม่ๆ
ให้แก่ผู้สมัครรับเลือกตั้งซึ่งอาจจะไม่ตรงกับผลประโยชน์เดิมของผู้สมัครจึงมีโอกาสที่จะถูกปฏิเสธ ดังจะเห็นได้
จากผลการศึกษาว่าผู้สมัครเป็นกลุ่มที่ตั้งคำถามต่อกระบวนการดำเนินโครงการของผู้วิจัยมากที่สุด ขณะที่ผู้มี
สิทธิเลือกตั้งและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยินดีที่จะเข้าร่วมโครงการโดยไม่ได้สนใจไต่ถามเรื่องกระบวนการมาก
เท่าใดนัก ทั้งนี้เพราะ กระบวนการเสวนาของโครงการนี้มีเป้าหมายสำคัญเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้มี
สิทธิเลือกตั้งอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม หากผู้สมัครปฏิเสธที่จะเข้าร่วมโครงการ เป้าหมายเชิงกระบวนการก็อาจจะ
ถูกริดรอนลงไปซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเป้าหมายหลักของโครงการในเรื่องการลดการซื้อเสียงและสร้างความ
สมานฉันท์ได้ ดังนั้น การทำให้ผู้สมัครเห็นความสำคัญของการเข้าร่วมโครงการและเข้าร่วมในเวทีประชาเสวนา
ตั้งแต่ต้นจึงเป็นสิ่งจำเป็น ซึ่งผู้วิจัยพบว่า "ความโปร่งใส" "เป็นกลาง" ของผู้อำนวยการเสวนาหรือในที่นี้ก็คือ
ผู้วิจัยมีความสำคัญต่อการสร้างความไว้วางใจให้แก่ผู้สมัคร เปิดใจและยินดีเข้าร่วมโครงการได้ ในแง่นี้แสดงให้
เห็นว่าประเด็นเรื่องผลประโยชน์ส่วนตัวของผู้สม้ครที่หลายฝ่ายมองว่าเป็นเงื่อนไขหนึ่งที่อาจส่งผลให้การ
ดำเนินโครงการไม่ประสบความสำเร็จ ในความเป็นจริงผู้สมัครมีความพร้อมเปิดใจรับฟังและเล็งเห็น
ความสัมพันธ์ระหว่างประโยชน์ส่วนรวมในระยะยาว เพียงแต่ผู้ดำเนินการจะต้องแสดงความเป็นกลางเพื่อ
ชี้ให้เห็นว่าไม่ได้เข้ามาแทรกแซงการแข่งขันระหว่างผู้สมัคร เพียงแต่สร้างโอกาสให้ผู้สมัครได้พบกับผู้มีสิทธิ
เลือกตั้งและพยายามส่งเสริมและธำรงไว้ซึ่งกระบวนการเลือกตั้งที่เป็นไปโดยบริสุทธิ์ยุติธรรม เป็นไปตามกติกา
ของบ้านเมืองไม่ได้มุ่งเอื้อประโยชน์ต่อฝ่ายใด ความเป็นไปได้ที่กลุ่มเป้าหมายอย่างผู้สมัครซึ่งมีความ
หลากหลายและมีเสี่ยงที่จะปฏิเสธเข้าร่วมโครงการ สุดท้ายแล้วจะยินดีเข้าร่วมและเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ
ได้ กล่าวโดยสรุปได้ว่าสิ่งสำคัญในการสร้างความเข้าใจและเชิญชวนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าร่วมโครงการและเข้า
ร่วมในเวทีเสวนาอยู่ที่ความสามารถในการตอบคำถามในรายละเอียดและการรักษาความเป็นกลางของผู้จัด
เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย
76
