Page 20 - kpi22237
P. 20

15


                       การศึกษาการพัฒนาประชาธิปไตยจึงมีเป้าหมายที่ ท าอย่างไรให้ประเทศที่เป็นประชาธิปไตยแล้ว

               สามารถสร้างประชาธิปไตยที่มั่นคงยั่งยืน (consolidation) โดยไม่มีการรัฐประหารหรือการล่มสลายของ
               ประชาธิปไตยที่จะกลับไปเป็นเผด็จการอีกครั้งหนึ่ง โดยกรณีศึกษาหลักอยู่ที่ประเทศโลกที่สามที่ถือว่าเป็น
               ประเทศประชาธิปไตยใหม่ (the new democracies) ในงานของ Linz and Stepan (2001, 93-95) กล่าวถึง

               การสร้างประชาธิปไตยที่มั่งคงแข็งแรง (consolidated democracy) ต้องมาจากประชาธิปไตยที่มีการเปลี่ยน
               ผ่านอย่างสมบูรณ์แล้ว และจะไม่กลับไปเป็นเผด็จการอ านาจนิยมอีก โดยประชาธิปไตยที่มั่นคงยั่งยืน หมายถึง

               ระบอบการเมืองที่ประชาธิปไตยเป็นระบบการเมืองที่ซับซ้อน ประกอบไปด้วยสถาบันการเมือง กฎ และแบบ
               แผนความสัมพันธ์ในการสนับสนุนให้ประชาธิปไตยเป็น "กติกาเดียวในสังคม" (the only game in town)
               โดยประชาธิปไตยที่ยั่งยืนต้องประกอบไปด้วย


                          1)  เชิงพฤติกรรม (behaviorally): ไม่กระท าการเพื่อบรรลุเป้าหมายของตนเอง ด้วยวิธีการ
                              ที่ไม่ใช่เป็นประชาธิปไตย หรือขัดแย้งกับกฎกติกาที่เป็นประชาธิปไตย

                          2)  เชิงทัศนคติ (attitudinally): ทัศนคติที่เชื่อว่าขั้นตอนและโครงสร้างกฎหมายที่เป็น
                              ประชาธิปไตยเหมาะสมกับสังคม และสามารถจัดการปัญหาและข้อเรียกร้องของสังคมได้

                          3)  เชิงโครงสร้างกฎหมายและรัฐธรรมนูญ (constitutionally): โครงสร้างของกฎหมาย ขั้นตอน
                              และสถาบันการเมือง สามารถจัดการความขัดแย้งด้วยวิธีการที่เป็นประชาธิปไตย


                       ด้วยเหตุนี้ “กฎหมาย” อย่างรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ จึงกลายมาเป็น
               กลไกส าคัญในการพัฒนาประชาธิปไตย เพราะกฎหมายจะเป็นตัวก าหนดโครงสร้างการเมืองการปกครอง
               สถาบันทางการเมืองในการวางความสัมพันธ์ทางอ านาจ และการจัดสรรทรัพยากรผ่านนโยบายสาธารณะ

               ท าให้หลักการเรื่อง นิติรัฐ (Rechtsstaat) และนิติธรรม (rule of law) ถือว่าเป็นปัจจัยส าคัญในการสร้าง
               ประชาธิปไตย ทั้งในด้านของ "รัฐ" ที่มีกลไกที่เป็นประชาธิปไตยในการจัดสรรอ านาจ ก าหนดนโยบาย

               และด าเนินการปกครองภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญและกฎหมาย และในด้านของ "สังคม" ที่มีกฎหมาย
               คุ้มครองเรื่องสิทธิเสรีภาพ การรวมกลุ่มกันอย่างเสรีในการเรียกร้องทางการเมือง และประชาชนสามารถ

               มีส่วนร่วมในการใช้อ านาจรัฐได้ (Linz and Stepan 2001, 97-99)

                       ในกระบวนการพัฒนาประชาธิปไตย การเลือกตั้งเป็นตัวแปรส าคัญในการศึกษาความเปลี่ยนแปลง

               หรือผลลัพธ์ในทางการเมืองหลายประการ โดยรูปแบบหรือวิธีการเลือกตั้งที่เปลี่ยนแปลงไปจะน าไปสู่
               การเปลี่ยนแปลงของปรากฏการณ์ทางการเมืองอื่นๆ มากมาย จะกล่าวโดยสังเขปดังต่อไปนี้


                          1)  ปัญหาเรื่องความเป็นตัวแทน: ประชาธิปไตยในปัจจุบันถูกท าให้เหลือความหมายเพียงแค่

                              “ประชาธิปไตยแบบตัวแทน” การเลือกตั้งกลายเป็นทุกอย่างของประชาธิปไตย ผู้แทนที่มา
                              จากประชาชนสามารถออกกฎหมายที่เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองและขัดกับประโยชน์ของ

                              ประชาชนได้ โดยประชาชนไม่สามารถควบคุมการท างานเพราะไม่มีกลไกอื่นนอกจากการ
                              เลือกตั้ง อีกทั้งผู้แทนดังกล่าวไม่ใช่ตัวแทนที่แท้จริง และการเลือกตั้งไม่เคยท าให้เกิดตัวแทนที่

                              แท้จริงได้ เพราะตัวแทนที่มาจากการเลือกตั้งต่างเปลี่ยนแปลงไปตามรูปแบบหรือวิธีการ
                              เลือกตั้งที่แปรเปลี่ยนไป
   15   16   17   18   19   20   21   22   23   24   25