Page 23 - kpi22237
P. 23

18


                       ด้วยเหตุนี้ การศึกษาเรื่องกระบวนการสรรหาผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งจึงสะท้อนถึงโครงสร้างและ

               ความเข้มแข็งของการจัดองค์กรในพรรคการเมือง ซึ่งสามารถพิจารณาได้ใน 4 ด้านหลัก (Scarrow and
               Webb 2017, 7-8) ดังนี้

                          1)  ความเป็นอิสระหรือข้อจ ากัดของผู้น า (leadership autonomy - restriction) กล่าวถึง

                              บทบาทของ “ผู้น า” ในพรรคการเมือง ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และ
                              กรรมการบริหารพรรค ว่าจะสามารถใช้อ านาจในการตัดสินใจ “ในนามของพรรคการเมือง”

                              ได้มากหรือน้อยเพียงใดผ่านกรณีของกระบวนการสรรหาผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง หากในพรรค
                              การเมืองที่ให้อิสระกับผู้น ามากย่อมท าให้การคัดเลือกผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งมาจากส่วนกลาง

                              หรือยอดพีระมิดของอ านาจในพรรคการเมืองนั้น แต่หากจ ากัดความเป็นผู้น าจะท าให้สมาชิก
                              พรรค นายทุนของพรรค หรือกลุ่มก้อนต่างๆ ภายในพรรคสามารถเข้ามามีอิทธิพลต่อ
                              การเลือกผู้สมัครลงแข่งขันเลือกตั้ง

                          2)  การรวมศูนย์อ านาจหรือกระจายอ านาจให้ท้องถิ่น (centralization - localization) สะท้อน
                              ให้เห็นถึงการท างานของพรรคการเมืองว่าจะมีกระบวนการสรรหาผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งที่ให้

                              อ านาจการตัดสินใจกลับไปที่กรรมการบริหารพรรคในส่วนกลางแบบรวมศูนย์อ านาจ หรือจะ
                              เปิดช่องให้สาขาพรรคหรือสมาชิกพรรคในพื้นที่ท้องถิ่นสามารถเข้ามามีส่วนร่วมหรือก าหนด

                              ตัวบุคคลที่จะส่งลงสมัครรับเลือกตั้ง ระดับของการรวมศูนย์หรือกระจายอ านาจการตัดสินใจ
                              ในพรรคย่อมสะท้อนถึงความสามารถในการ “ควบคุม” กิจการภายในพรรคการเมืองและ

                              การ “จัดสรร” ทรัพยากรต่างๆ
                          3)  ความร่วมมือในการท างานหรือความไม่แน่นอน (coordination - entropy) เป็นความ
                              ร่วมมือในการกระท าการต่างๆ ของพรรคการเมืองในแต่ละระดับและในสนามการแข่งขัน

                              ที่แตกต่างกัน โดยความร่วมมือในพรรคการเมืองสามารถท าได้ทั้งจากความสัมพันธ์แบบ
                              แนวตั้ง (vertical relations) ระหว่างผู้น าพรรคกับสมาชิกพรรค และความสัมพันธ์แบบ

                              แนวระนาบ (horizontal relations) ระหว่างกลุ่มต่างๆ (factions) ในพรรคการเมือง
                              โดยความเข้มแข็งของกลุ่มหรือ “มุ้ง” ในพรรคการเมืองอยู่ในระดับสูงย่อมท าให้เกิด

                              ความไม่แน่นอนในการจัดการภายในพรรคการเมือง
                          4)  การรวมหรือกระจายตัวของเขตเลือกตั้งที่มุ่งหวัง (territorial concentration - dispersion)

                              เป็นมิติของการจัดการของพรรคการเมืองต่างเขตเลือกตั้งที่มีการแบ่งจากระดับประเทศ
                              สู่ระดับพื้นที่ บางพรรคการเมืองมีคุณลักษณะส าคัญจากการเป็น “พรรคการเมืองระดับชาติ”
                              แต่บางพรรคการเมืองกลับมีคุณลักษณะส าคัญที่มุ่งเป้าให้เป็น “พรรคการเมืองระดับพื้นที่”

                              เท่านั้น เช่น ในสหราชอาณาจักรจะมีพรรคอนุรักษ์นิยมและพรรคแรงงานเป็นพรรคการเมือง
                              ระดับชาติที่มีข้อเสนอและนโยบายระดับชาติ แต่ก็มีพรรคการเมืองที่ส าคัญอย่างพรรค

                              ชาตินิยมสกอตแลนด์ (the Scottish Nationalist Party) ที่มุ่งหมายหลักจะเป็นพรรค
                              การเมืองระดับพื้นที่มากกว่า ความแตกต่างของพรรคการเมืองที่มีเขตเลือกตั้งที่มุ่งหวังท าให้
                              ส่งผลต่อรูปแบบกระบวนการสรรหาผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งเช่นเดียวกัน
   18   19   20   21   22   23   24   25   26   27   28