Page 28 - kpi22237

23

ทีหนึ่งก่อน ถึงจะเป็นตัวแทนพรรคได้ ระบบนี้ใช้ในพรรคการเมืองของสหราชอาณาจักร

ทั้งพรรคอนุรักษ์นิยมและพรรคแรงงาน ซึ่งระบบนี้จะเหมาะสมส าหรับพรรคการเมืองที่มี
กลไกคณะกรรมการในแต่ละระดับของพรรคที่ชัดเจนที่ช่วย “กลั่นกรอง” (filters) ให้ได้
ผู้แทนพรรคที่เหมาะสมที่สุดไปแข่งขันเลือกตั้งทั่วไป

3) วิธีการถ่วงน้ าหนัก (weighted method) เป็นวิธีการที่บุคคลที่พรรคให้ด าเนินการสรรหา
ตั้งแต่ 2 กลุ่มขึ้นไป (ในแผนภาพคือ A และ B) มาถ่วงคะแนนสรรหาร่วมกันในการประชุม

พรรค ใครได้สัดส่วนร้อยละสูงสุดไปก็จะได้เป็นตัวแทนพรรคในการเข้าแข่งขันเลือกตั้ง
โดยไม่ต้องมีการแยกกลุ่มแบบวิธีที่ 1 และไม่ต้องท าเป็นล าดับชั้นในการคัดกรองแบบวิธีที่ 2

ตัวอย่างของพรรคการเมืองที่ใช้วิธีนี้ เช่น พรรคแรงงานในประเทศนิวซีแลนด์ เป็นต้น
โดยวิธีนี้เหมาะสมกับประเทศที่มีระบบเลือกตั้งแบบหนึ่งเขตหนึ่งคน (single-member

districts) เพราะเป็นการคัดเลือกที่มุ่งเป้าไปเพื่อหาผู้ชนะที่ชัดเจนคนเดียวเป็นตัวแทนพรรค

จากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ แนวการศึกษาวิธีสรรหาผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งด้วยกรอบเชิงสถาบัน
จึงกลายเป็นกรอบความคิดรวบยอดใหญ่ของงานวิจัยชิ้นนี้ที่จะพิจารณา 4 องค์ประกอบส าคัญ ตัวผู้สมัคร

เข้ารับการสรรหา (candidacy) บุคคลที่พรรคให้ด าเนินการสรรหา (party selectorates) การกระจายอ านาจ
ในการสรรหา (decentralization) และระบบการเลือกหรือสรรหา (voting/appointment system) ตามที่

ได้กล่าวไว้ข้างต้น

2.4 การเลือกตั้งขั้นต้น: แนวคิดและรูปแบบ
การเลือกตั้งขั้นต้น (primary election) ถือเป็นรูปแบบการสรรหาผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งรูปแบบหนึ่ง

ซึ่งมีที่มาจากสหรัฐอเมริกา เป็นกระบวนการสรรหาผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งที่ให้อ านาจในการเลือกตัวแทน
โดยตรงบนพื้นฐานของความนิยม แทนที่จะเป็นอ านาจของผู้น าของพรรคการเมืองตัดสินใจเลือก รูปแบบนี้

การสรรหาผู้สมัครแบบนี้ก็มีการน าไปใช้ในประเทศอื่นๆ เช่นกัน ซึ่งจะมีค าเรียกที่แตกต่างกันไป เช่น
การแข่งขันชิงต าแหน่งหัวหน้าพรรค (party leadership contest), การแข่งขันเสนอชื่อเป็นตัวแทนสมัคร

รับเลือกตั้งสภานิติบัญญัติ (legislative nomination race), การคัดเลือกผู้สมัครเบื้องต้น (candidate
preselections) (Cross et al 2016, 16) รูปแบบการสรรหาผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งที่เปิดโอกาสให้สมาชิกพรรค

หรือผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั่วไปสามารถเลือกตัวแทนลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคการเมืองนั้น หากใช้กรอบ
การวิเคราะห์ของ Hazan and Rahat (2010) มาวิเคราะห์แล้ว โดยทฤษฎีนั้น การเลือกตั้งขั้นต้นถือได้ว่าเป็น
รูปแบบการสรรหาผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งที่นับรวมทุกคน (inclusive) เพราะกระบวนการนี้ บุคคลที่ด าเนินการ

สรรหา (selectorates) นั้นคือผู้มีสิทธิเลือกตั้ง (voter) และสมาชิกพรรค (party member)

การเลือกตั้งขั้นต้นนั้นสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ การเลือกตั้งขั้นต้นแบบดั้งเดิม (pure

primary) ซึ่งแบ่งเป็นการเลือกตั้งขั้นต้นแบบเปิด (open primary), การเลือกตั้งขั้นต้นแบบกึ่งเปิด (semi-
open primary), และการเลือกตั้งขั้นต้นแบบปิด (closed primaries) กับ การเลือกตั้งขั้นต้นแบบผสม

(mixed primary) ซึ่งแบ่งได้เป็นการเลือกตั้งขั้นต้นแบบชั่งน้ าหนัก (weighted systems) กับ การเลือกตั้ง
ขั้นต้นแบบหลายขั้นต้น (multi-stage primaries) (Cross et al. 2016, 26-30)