Page 267 - kpi21298
P. 267

2) การใช้ข้อมูลเชิงประจักษ์เพื่อกำหนดค่าน้ำหนัก เช่น การวิเคราะห์องค์ประกอบ
                     (Factor Analysis) โดยใช้ค่าน้ำหนักของตัวแปรที่อธิบายลักษณะขององค์ประกอบอันหนึ่ง หรืออาจใช้ค่า

                     สัมประสิทธิ์การถดถอยจากการวิเคราะห์ถดถอยเชิงพหุ

                              โดยในการกำหนดค่าน้ำหนักความสำคัญขององค์ประกอบหรือตัวแปรนี้ อาจใช้วิธีการ
                     กำหนดให้ค่าเท่ากันหรือต่างกัน โดยขึ้นอยู่กับธรรมชาติของตัวแปรและวัตถุประสงค์ในการนำไปใช้ สำหรับ

                     การกำหนดให้ต่างกันนั้น อาจใช้วิธีการพิจารณาความสัมพันธ์ของตัวแปร โดยคำนึงถึงเวลา ค่าใช้จ่าย ฯลฯ

                     ที่เกี่ยวข้องกับองค์ประกอบหรือตัวแปร หรืออาจให้ผู้เชี่ยวชาญกำหนด (Rational Approach) หรืออาจใช้
                     ข้อมูลเชิงประจักษ์ (Empirical Approach) หรือถ้าใช้ทั้ง 2 วิธี ก็จะทำให้ผลการศึกษาน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น

                              นอกจากขั้นตอนทั้ง 3 ข้อดังกล่าวแล้ว Burstein, Oakes and Guiton (1992) ยังเห็นว่า

                     แนวทางกว้าง ๆ ในการพัฒนาตัวชี้วัดวัดอาจใช้แนวทางในการพัฒนารูปแบบการประเมิน ซึ่งมี 2 แนวทาง
                     ใหญ่ ๆ คือแนวทางปทัสถาน (Normative) คือ กำหนดกรอบในการพัฒนา โดยศึกษาแนวคิดทฤษฎีที่

                     เกี่ยวข้องจากแหล่งความรู้ต่าง ๆ แล้วกำหนดเป็นกรอบที่จะพัฒนาตามวัตถุประสงค์ หลังจากนั้นจึงไป

                     ทดลองกับข้อมูลเชิงประจักษ์ นั่นคือ ใช้ทั้งแหล่งความรู้และผู้เชี่ยวชาญร่วมกัน ซึ่งจะทำให้ผลการศึกษา
                     น่าเชื่อถือดังกล่าวแล้ว ส่วนอีกแนวทางหนึ่ง เรียกว่า แนวทางพรรณนา (Description) ซึ่งจะไม่กำหนด

                     กรอบล่วงหน้า แต่จะเก็บข้อมูลภาคสนามเลยทำให้มีขอบเขตไม่ชัดเจน คล้ายกับการวิจัยเชิงคุณภาพ ซึ่งถ้า

                     จะพัฒนาตัวชี้วัดควรจะกำหนดกรอบไว้ล่วงหน้าเพื่อให้มีความชัดเจนคล้ายกับการวิจัยเชิงปริมาณ
                     เว้นเสียแต่ตัวชี้วัดที่จะพัฒนายังไม่มีผู้ศึกษามาก่อนเลย ดังนั้น ในที่นี้จะใช้แนวทางปทัสถานในการพัฒนา

                     ตัวชี้วัด เพราะมีสาระเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่บ้างแล้ว และเพื่อให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น

                            3. วิธีการสร้างและพัฒนาตัวชี้วัด
                              จากการทบทวนแนวคิดที่เกี่ยวข้อง คณะผู้วิจัยได้พบว่าวิธีการสร้างและพัฒนาตัวชี้วัดที่สำคัญ

                     ซึ่งได้รับการยอมรับนั้น มี 3 วิธีด้วยกัน คือ

                                     1) การสร้างตัวชี้วัดโดยอาศัยแนวคิดในการสร้างและการนำไปใช้ ในการสร้างตัวชี้วัด
                     ประเภทนี้แบ่งออกเป็น 2 วิธี วิธีแรก คือ การสร้างตัวชี้วัดในลักษณะที่เป็นตัวชี้วัดแทน โดยการเลือกตัวแปร

                     ที่มีอยู่มาใช้ ส่วนวิธีที่สอง คือ การสร้างตัวชี้วัดรวม โดยการนำเอาตัวแปรจำนวนหนึ่งมารวมกันหรือผสมกัน

                     โดยมีข้อตกลงเบื้องต้นว่าตัวแปลเหล่านั้นมีความสัมพันธ์กัน แต่อาจไม่มีการกำหนดค่าน้ำหนักกับตัวชี้วัดแต่
                     ละตัว ซึ่งการรวมตัวแปรแบบนี้มักกำหนดขึ้นเพื่อนำไปใช้งานเฉพาะอย่างซึ่งอาจมีความลำเอียงได้ ขึ้นอยู่กับ

                     บุคคลที่เลือกหรือจัดกลุ่มตัวแปร









                                                         โครงการวิจัยพัฒนาฐานข้อมูลองค์ความรู้ด้านธรรมาภิบาล (Phase 2)   231
   262   263   264   265   266   267   268   269   270   271   272