Page 266 - kpi21298
P. 266
จากภาพประกอบที่ 2.1 จะเห็นได้ว่าตัวแปรที่ 1 และ 2 มีแนวโน้มว่าจะมีความสัมพันธ์กับ
สภาวการณ์ทางการศึกษาที่ต้องการวัด ในขณะเดียวกันตัวแปรทั้งสองนี้ก็มีความสัมพันธ์กันเองสูง
เนื่องมาจากตัวแปรทั้งสองอาจวัดในสิ่งที่คล้ายคลึงกัน จึงไม่ควรขัดตัวแปลทั้งสองไว้ทั้งคู่ ส่วนตัวแปรที่ 3 มี
ความสัมพันธ์กับตัวแปรที่ 1 และ 2 ต่ำ แต่มีแนวโน้มว่าจะสัมพันธ์กับสภาวการณ์ทางการศึกษาในระดับ
ปานกลาง ดังนั้น จึงมีความเป็นอิสระที่จะอธิบายสภาวการณ์ทางการศึกษาได้มากกว่า จากกรณีดังกล่าวนี้
ควรเลือกตัวแปรตัวที่ 1 หรือตัวแปรตัวที่ 2 ตัวใดตัวหนึ่งร่วมกับตัวแปรตัวที่ 3
ขั้นตอนที่ 2 การสังเคราะห์ตัวแปร โดยการสังเคราะห์องค์ประกอบหรือตัวแปรนี้ อาจใช้
วิธีการสังเคราะห์ตัวแปรด้วยการบวกหรือคูณกัน โดยมีหลักที่สำคัญคือจะใช้การบวกเมื่อความสำคัญของตัว
แปรต่าง ๆ สามารถทดแทนกันได้ และจะใช้การคูณเมื่อตัวแปรต่าง ๆ ไม่สามารถทดแทนกันได้ ซึ่งแนวคิด
สำหรับการรวมตัวแปรที่มีข้อตกลงเบื้องต้นแตกต่างกันไว้ 2 แนวทาง ดังนี้ (Burstein, Oakes and Guiton,
1992)
1) การรวมเชิงบวก (Additive) มีแนวคิดข้อตกลงเบื้องต้นว่า ตัวแปรแต่ละตัวมีความ
เท่าเทียมกัน สามารถทดแทนหรือชดเชยได้ด้วยตัวแปรอีกตัวหนึ่ง ซึ่งทำให้ค่าของตัวชี้วัดไม่เปลี่ยนแปลงไป
การรวมวิธีนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการทราบค่าความแตกต่างของระบบการศึกษาสองระบบขึ้นไป
2) การรวมแบบทวีคูณ (Multiplicative) มีแนวคิดและข้อตกลงเบื้องต้นว่า ค่าตัวแปร
แต่ละตัวไม่สามารถทดแทนหรือชดเชยกันได้ การรวมวิธีนี้ ตัวชี้วัดที่สร้างขึ้นจะมีค่าสูงได้ก็ต่อเมื่อตัวแปร
องค์ประกอบทุกตัวมีค่าสูงทั้งหมดโดยทั่วไปวิธีนี้จะใช้เปรียบเทียบระบบการศึกษาสองระบบขึ้นไปว่าระบบ
หนึ่งมีค่าตัวชี้วัดสูงกว่าอีกระบบหนึ่งอยู่กี่เท่าและคิดเป็นร้อยละเท่าไร
ขั้นตอนที่ 3 การกำหนดน้ำหนักของตัวแปร โดยในการกำหนดน้ำหนักของตัวแปร
องค์ประกอบมี 2 วิธีการ คือ
1) การลงความเห็นในหมู่นักวิจัยและนักวางแผน โดยสมาชิกแต่ละคนจะเสนอค่า
น้ำหนักของตัวแปร และพิจารณาหาข้อยุติด้วยการหาค่าเฉลี่ยหรือด้วยการอภิปรายลงความเห็นนอกจากนี้
หากต้องการความคิดเห็นที่หลากหลายออกไป อาจขอความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญในแผนกต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
โดยใช้แบบสอบถาม เพื่อตรวจสอบดูค่าร้อยละที่ผู้ตอบแบบสอบถามเห็นด้วยกับความสำคัญของตัวแปรที่
ร่วมอยู่ในองค์ประกอบ หรืออาจใช้วิธีการที่เป็นระบบมากขึ้น เช่น ใช้เทคนิคเดลฟายเพื่อสำรองความคิดเห็น
จากกลุ่มคนที่ได้คัดเลือกเป็นพิเศษ โดยสัมภาษณ์และทดสอบความคิดเห็นจนได้คำตอบที่ชัดเจน แล้วจึงนำ
ข้อมูลดังกล่าวมาใช้หาค่าน้ำหนักของตัวแปรองค์ประกอบต่อไป
โครงการวิจัยพัฒนาฐานข้อมูลองค์ความรู้ด้านธรรมาภิบาล (Phase 2) 230