Page 29 - kpi20973
P. 29
28
ข้อเสียของประเด็นดังกล่าวให้ประชาชนเข้าใจอย่างสมบูรณ์และทั่วถึงเพียงใด โดยในประเทศที่มีการพัฒนา
ทางการเมืองแล้ว ผลของการลงประชามติจะมีผลบังคับให้รัฐบาลต้องปฏิบัติตาม แต่ส้าหรับประเทศไทยนั น
รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันบัญญัติให้ผลของการประชามติมีทั งแบบที่มีข้อยุติโดยเสียงข้างมาก และแบบที่เป็น
เพียงการให้ค้าปรึกษาแก่คณะรัฐมนตรีซึ่งไม่มีผลบังคับให้รัฐบาลต้องปฏิบัติตามแต่อย่างใด (มาตรา 165)
โกวิทย์ พวงงาม (2545 : 8) ได้สรุปการมีส่วนร่วมที่แท้จริงของประชาชนในการพัฒนาว่าควรจะ
มี 4 ขั นตอน คือ
1) การมีส่วนร่วมในการค้นหาปัญหาและสาเหตุของปัญหาของแต่ละท้องถิ่น กล่าวคือ
ถ้าหากชาวชนบทยังไม่สามารถทราบถึงปัญหาและเข้าใจถึงสาเหตุของปัญหาในท้องถิ่นของตนเป็นอย่างดีแล้ว
การด้าเนินงานต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาของท้องถิ่นย่อมไร้ประโยชน์ เพราะชาวชนบทจะไม่เข้าใจและมองไม่เห็น
ถึงความส้าคัญของการด้าเนินงานเหล่านั น
2) การมีส่วนร่วมในการวางแผนด้าเนินกิจกรรม เพราะการวางแผนด้าเนินงานเป็นขั นตอนที่
จะช่วยให้ชาวชนบทรู้จักวิธีการคิด การตัดสินใจอย่างมีเหตุผล รู้จักการน้าเอาปัจจัยข่าวสารข้อมูลต่างๆ มาใช้
ในการวางแผน
3) การมีส่วนร่วมในการลงทุนและการปฏิบัติงาน แม้ชาวชนบทส่วนใหญ่จะมีฐานะยากจน แต่
ก็มีแรงงานของตนที่สามารถใช้เข้าร่วมได้ การร่วมลงทุนและปฏิบัติงานจะท้าให้ชาวชนบทสามารถคิดต้นทุน
ด้าเนินงานได้ด้วยตนเอง ท้าให้ได้เรียนรู้การด้าเนินกิจกรรมอย่างใกล้ชิด
4) การมีส่วนร่วมในการติดตามและประเมินผลงาน ถ้าหากการติดตามงานและประเมิน
ผลงานขาดการมีส่วนร่วมแล้ว ชาวชนบทย่อมจะไม่ทราบด้วยตนเองว่างานที่ท้าไปนั นได้รับผลดี ได้รับ
ประโยชน์หรือไม่อย่างใด การด้าเนินกิจกรรมอย่างเดียวกันในโอกาสต่อไป จึงอาจจะประสบความยากล้าบาก
การจัดล้าดับขั นของการมีส่วนร่วมของประชาชน มีความส้าคัญมากต่อความส้าเร็จของกิจกรรม
หรือโครงการที่กระท้า แต่สิ่งที่ส้าคัญที่สุดคือการสื่อสารที่เข้าใจลงถึงประชาชนมีความชัดเจน จึงจะท้าให้
ประชาชนเข้ามาร่วมกิจกรรมหรือโครงการในทุกๆ ขั นตอน
2.1.6 ลักษณะของการมีส่วนร่วม
กรรณิกา ชมดี (2524 : 13) ได้สรุปลักษณะของการมีส่วนร่วม ดังนี
1) ร่วมเป็นผู้ริเริ่มหรือผู้เริ่ม 2) ร่วมเป็นผู้ชักชวน
3) ร่วมเป็นกรรมการ 4) ร่วมเป็นผู้น้าร่วมสัมภาษณ์
5) ร่วมประชุม ร่วมออกเงิน วัสดุอุปกรณ์และแรงงาน 6) ร่วมเป็นผู้บริโภคหรือเป็นเจ้าของ