Page 26 - kpi20973
P. 26
25
อรทัย ก๊กผล (2552 : 19) กล่าวถึงเงื่อนไขที่ส้าคัญในการท้างานเพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วม
3 ประการ คือ
1) การมีส่วนร่วมต้องเกิดจากความเต็มใจและความตั งใจจะเข้าร่วม เพราะจะท้าให้เกิด
ความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนในการแก้ปัญหาหรือการตัดสินใจในเรื่องนั น
2) กระบวนการมีส่วนร่วมนั นต้องอยู่บนพื นฐานของความเสมอภาค และขีดความสามารถ
ของแต่ละบุคคลที่เข้ามามีส่วนร่วม
3) การมีส่วนร่วมต้องตั งอยู่บนพื นฐานของเสรีภาพหรืออิสรภาพที่จะตัดสินใจว่าจะเลือกหรือ
จะจัดให้มีการมีส่วนร่วมหรือข้อส้าคัญหรือการมีส่วนร่วมนั นต้องไม่เกิดจากการบังคับหรือขู่เข็ญจากผู้ที่
เหนือกว่า
ถวิลวดี บุรีกุล และคณะ (2551 : 4) น้าเสนอเงื่อนไขของการมีส่วนร่วมของประชาชนว่า ต้องมี
อิสรภาพโดยที่ต้องเข้าร่วมโดยสมัครใจ มีความเสมอภาคในการเข้าร่วมกิจกรรม และผู้เข้าร่วมต้องมีความสามารถ
คือ มีความเข้าใจในเรื่องนั นๆ ซึ่งการมีส่วนร่วมของประชาชนจะมีประสิทธิผลได้ต้องประกอบด้วยปัจจัย ดังนี
1) ข้อมูลจากประชาชนส่งผ่านไปยังผู้เสนอนโยบายหรือโครงการเพื่อให้ผู้ที่จะก้าหนดนโยบาย
หรือผู้ที่จะเสนอโครงการนั นๆ ได้ทราบถึงธรรมชาติและแนวคิดของสังคม
2) ข้อมูลทางเทคนิคเกี่ยวกับเรื่องที่เป็นประเด็นสนใจจากผู้เสนอโครงการส่งผ่านไปยังประชาชน
3) การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและความเชื่อระหว่างประชาชนกับผู้ก้าหนดนโยบาย หรือ
ผู้เสนอโครงการ หรือระหว่างประชาชนด้วยกันเอง
4) ข้อมูลจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและประชาชนผู้สนใจจะต้องได้รับการน้าเข้าสู่กระบวนการ
ตัดสินใจ
ยุพิน ระพีพันธุ์ (2544 : 21-22) เสนอว่าปัจจัยพื นฐานในการมีส่วนร่วมของประชาชน คือ
1) ปัจจัยของสิ่งจูงใจจากสภาพความเป็นจริง ชาวบ้านจะเข้าร่วมกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่ง
ทั งในแง่การร่วมแรง ร่วมทรัพยากรหรืออื่นๆ นั นมีเหตุผลอยู่ 2 ประการ คือ
1.1) การมองเห็นว่าตนจะได้รับประโยชน์ตอบแทนในสิ่งที่ตนท้าไป ซึ่งถือเป็นเรื่องการ
กระตุ้นให้เกิดมีสิ่งจูงใจ
1.2) การได้รับค้าบอกกล่าวหรือชักชวนจากเพื่อนบ้านให้เข้าร่วม โดยมีสิ่งจูงใจเป็นตัวน้า
ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องของการก่อให้เกิดมีสิ่งจูงใจ