Page 49 - kpi20902
P. 49
48
เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้
มีกิจกรรมบนพื นฐานของกระบวนการกลุ่มและพื นฐานของการเรียนรู้ร่วมกัน
มีเครือข่ายและการติดต่อสื่อสารและให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการท้าความเข้าใจต่อ
องค์ประกอบที่ส้าคัญของประชาสังคม อันได้แก่
การมีวิสัยทัศน์ร่วมกันของสมาชิกกลุ่ม
การมีส่วนร่วมของสมาชิกอย่างกว้างขวาง
การมีความรัก ความเอื ออาทรต่อกัน
การมีองค์ความรู้และความสามารถ รวมทั งวิธีการใหม่ๆ ในการแสวงหาความรู้
มีการเรียนรู้และเครือข่ายการเรียนรู้ ซึ่งประสานกันอย่างเป็นระบบภายใต้การ
จัดการที่มีประสิทธิภาพ
ส้าหรับแนวคิดชุมชนประชาสังคมดังกล่าว ในสังคมไทยได้มีการกล่าวถึงและให้ความส้าคัญ
ไม่กี่ปีมานี่เอง ซึ่งเป็นจุดเชื่อมโยงหรือกระบวนการหนึ่งในการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนท้องถิ่น ซึ่งมีอยู่
เป็นจ้านวนมากในสังคมไทย แต่ในทางปฏิบัติภาคประชาสังคมกลับไม่ค่อยมีบทบาทที่โดดเด่นมากนัก
เนื่องจากรัฐเองก็ขาดการสนับสนุนอย่างเต็มรูปแบบเนื่องจากเป็นเรื่องของการถ่วงดุลอ้านาจในการปกครอง
ซึ่งรัฐไม่อยากถ่ายโอนไปสู่ชุมชนมากนัก พิจารณาได้จากพระราชบัญญัติการกระจายอ้านาจให้องค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่นซึ่งมีการจัดท้าในช่วงปี 2542 ที่เน้นการกระจายอ้านาจจากส่วนกลางไปสู่ท้องถิ่นเกือบทั งหมด
และมีก้าหนดในหมวดที่ 4 แผนการกระจายอ้านาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มาตรา 30 สรุปความ
20
ว่าจะต้องด้าเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 4 ปี หลังจากมีพระราชบัญญัติฉบับนี แต่ในความเป็นจริง
ก็ไม่สามารถด้าเนินการได้ส้าเร็จ จนกระทั่งถึงปัจจุบันเป็นปรากฏการณ์สะท้อนถึงการสร้างความเท่าเทียม
เพื่อจะแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล ้าในสังคมไทย จึงเป็นมายาคติที่ยังขาดการน้าไปปฏิบัติอย่างจริงจังใน
สังคมไทย ทั งนี อาจจะเกิดจากข้อจ้ากัดอื่นนอกเหนือจากการที่รัฐไม่สามารถสร้างชุมชนประชาสังคม
ให้เข้มแข็งได้ เพราะข้อจ้ากัดของระยะทางและพื นที่ก็เป็นปัจจัยส่วนที่ส้าคัญประการหนึ่งเช่นกัน จนน้าไปสู่
ลักษณะของชุมชนแบบใหม่ Virtual Community Perspective ขึ นมาโดยอาศัยระบบเทคโนโลยีสาระสนเทศ
เป็นตัวเชื่อมโยงให้เกิดชุมชนในลักษณะใหม่นี
20 พระราชบัญญัติก้าหนดแผนและขั นตอนการกระจายอ้านาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2542, หมวดที่
4, (ออนไลน์) แหล่งที่มา http://www.phichitpao.go.th/picture/ml2-5/ml2-5-2.pdf