Page 77 - kpi20899
P. 77
“การถอดบทเรียนชุมชนเพื่อการปฏิรูปกระบวนการจัดการทรัพยากร : พลวัตแห่งการมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรน ้า
ในพื นที่ต้าบลหนองพันจันทร์ อ้าเภอบ้านคา จังหวัดราชบุรี” โดย ดร.ปริชัย ดาวอุดม และนายเจษฎา เนตะวงศ์
และเพราะความสามารถในการเพาะปลูกและเพิ่มผลผลิต ตลอดจนปลูกพืชที่หลากหลายได้นี่เอง ท้าให้
หลายหน่วยงานเริ่มเข้ามาส่งเสริมให้ชาวบ้านท้าการเกษตรที่หลากหลายและเป็นระบบมากขึ้น ชาวบ้าน
จึงตระหนักว่านี่คือผลตอบแทนที่พวกเขาได้รับจากการท้านุบ้ารุง รักษา เห็นค่า และใช้ประโยชน์ทรัพยากร
น้้าอย่างคุ้มค่า
“อยากปลูกอะไรก็ได้ดั่งใจนึก อยากปลูกตอนไหนก็ได้ ความรู้สึกนี แตกต่างกัน
เยอะก่อนที่จะมีท่อมา จะท้าอะไรก็ไม่ได้ ก้าหนดไม่ได้เลย อยากจะปลูกอันนี ไปขาย
อีกสองเดือนข้างหน้า เพราะราคามันดี เราก็ท้าไม่ได้ เพราะไม่มีน ้า เราก็ต้องนั่งรอฝน
ตอนนี เราคุมเองได้ทุกอย่าง ปลูกพืชได้หลากหลายขึ น มีพันธุ์พืชอะไรมาก็ปลูกได้ ไม่ว่า
จะเป็นผักกาด กวางตุ้ง กะหล่้าปลี ปลูกได้หมดแหละ ถ้าคนขยันปลูก เพราะน ้าท่า
อุดมสมบูรณ์” (สัมภาษณ์ลุงอุดม 22 มิถุนายน 2560)
อาจกล่าวได้ว่าก่อนที่ชาวบ้านจะร่วมกันใช้อ้านาจอย่างมีส่วนร่วมและเต็มใจชาวบ้านมีความรู้สึก
เป็นเจ้าของทรัพยากรอยู่แล้ว โดยมิต้องถามถึงความตระหนักเรื่องสิทธิเพราะความรู้สึกเป็นเจ้าของ
(Sense of belonging) น่าจะถือได้ว่าเป็นขั้นสูงสุดของการใช้สิทธิในการบริหารจัดการทรัพยากร
แต่อย่างไรก็ตาม การเป็นเจ้าของและความหวงแหนก็ถูกก้ากับอยู่โดยเครือข่าย ความร่วมมือและความ
เอื้อเฟื้อแบ่งปัน ไปสู่ชุมชนอื่นๆ เราจึงเห็นการคิดค้านวณปริมาตรน้้าที่จะปล่อยออกจากเขื่อน ผ่านระบบ
ล้าห้วยที่มากเพียงพอจะจุนเจือหล่อเลี้ยงชีวิตริมล้าห้วยบนเส้นทางคดเคี้ยวหลายสิบกิโลเมตรที่กรรมการ
น้้าได้ร่วมกันก้าหนดไว้เป็นโควต้าที่เจ้าหน้าที่ของกรมชลประทานจะปล่อยออกไป แม้กระนั้นในยามวิกฤติ
ปริมาณน้้าส้ารองก็ถูกแบ่งปันยังชุมชนข้างเคียงอย่างเอื้ออารี
ร่วมก าหนดกติกา เมื่อคนในชุมชนมีความรู้สึกเป็นเจ้าของ หวงแหนทรัพยากรการมีส่วนร่วม
ในการก้าหนดกติกาการใช้ทรัพยากรก็เกิดขึ้นในฐานะที่ทุกๆ การใช้ทรัพยากรในแต่ละครั้งย่อมหมายถึง
ปริมาณที่ลดลงของน้้าฝนในอ่างเก็บน้้าด้วย แต่ว่าก็จะได้มาซึ่งกติกาแต่ละเรื่อง ชาวบ้านและผู้คนในชุมชน
ได้ผ่านการลองผิดลองถูกมาหลายครั้งและแต่ละครั้งล้วนเป็นบทเรียนราคาแพงส้าหรับคนในชุมชน
ในขณะเดียวกันหากกล่าวถึงความส้าเร็จของการมีกติกาในการดูแลทรัพยากรร่วมกันชาวบ้านก็จะกล่าว
อย่างภาคภูมิใจในฐานะที่เป็นกติกาที่พวกเขาร่วมก้าหนด ร่วมรักษา และร่วมปฏิบัติตาม ดังนั้นชาว
หนองพันจันทร์เองก็สามารถประกาศกับสังคมภายนอกได้อย่างภาคภูมิว่าทุกกติกา มาจากการร่วมกันคิด
ร่วมกันท้าก้าหนดกติกาขึ้นมาทั้งสิ้น
76