Page 75 - kpi20899
P. 75
“การถอดบทเรียนชุมชนเพื่อการปฏิรูปกระบวนการจัดการทรัพยากร : พลวัตแห่งการมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรน ้า
ในพื นที่ต้าบลหนองพันจันทร์ อ้าเภอบ้านคา จังหวัดราชบุรี” โดย ดร.ปริชัย ดาวอุดม และนายเจษฎา เนตะวงศ์
จะเห็นได้ว่าความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับชุมชนซึ่งแยกไม่ออกกับระยะเวลาของการเร่งรัด
พัฒนาประเทศ ได้ส่งผลกระทบต่อชุมชนทั้งทางตรงและทางอ้อม แต่จุดเด่นส้าคัญของชุมชนแห่งนี้คือการ
รับรู้ปัญหาและการเรียนรู้ปัญหาร่วมกัน ได้น้าไปสู่การปรับทิศทางของการอยู่ร่วมกัน/การท้างานร่วมกัน
ท้าให้ชุมชนสามารถรับมือกับปัญหาได้อย่างชาญฉลาด และภายใต้กระบวนการปรับตัวและรับมือกับปัญหา
ดังกล่าว ชุมชนมีกระบวนการของการต่อสู้ต่อรองในเชิงสร้างสรรค์ จนท้าให้ได้มาซึ่งทางออก ทางแก้ปัญหา
ที่ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายได้รับประโยชน์ร่วมกัน มากไปกว่านั้นในกระบวนการต่อสู้ต่อรองเชิงสร้างสรรค์
ที่เกิดขึ้นยังได้ค่อยๆ สั่งสมความตระหนักในสิทธิชุมชนขึ้นมาทีละน้อยตลอดระยะเวลาของการเปลี่ยนแปลง
ของชุมชน
4.5 ประชาธิปไตย : การมีส่วนร่วมเพื่อความสุขที่ยั่งยืน
หากไม่น้าเอาแนวคิดทฤษฎีทางรัฐศาสตร์มาเป็นกรอบในการพิจารณาหลักและความหมายของ
ค้าว่าประชาธิปไตย แต่หากพิจารณาจากวิถีปฏิบัติของชาวหนองพันจันทร์ โดยเฉพาะในการบริหารจัดการ
ทรัพยากรน้้าซึ่งเป็นประเด็นความสนใจหลักของงานวิจัยครั้งนี้ จะเห็นได้ว่าชาวหนองพันจันทร์ไม่มี
จุดมุ่งหมายหรือแรงจูงใจใดที่จะใช้หลักการมีส่วนร่วมหรือกระบวนการประชาธิปไตยใดๆ ส้าหรับการ
บริหารจัดการน้้าที่ด้าเนินอยู่ แต่บรรดาวิถีปฏิบัติที่เกิดขึ้นนั้นมีเป้าหมายร่วมกันอยู่ที่การสร้างความยั่งยืน
ให้แก่ชีวิตในมิติต่างๆ ของคนในชุมชน และด้วยเป้าหมายของการสร้างความสุขที่ยั่งยืนนั่นเองที่ท้าให้
บรรดาหลักการ วิธี และกระบวนการต่างๆ เกิดขึ้น จนสามารถสร้างการมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ
ทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความหมาย หลักการ และกระบวนการมีส่วนร่วมของชาวหนองพันจันทร์
จึงเป็นสิ่งที่ชาวบ้านร่วมกันสร้างขึ้นโดยมิได้อ้างอิงหรือยึดตามแบบธรรมเนียมของต้ารา หรือทฤษฎีใด
4.5.1 อ้านาจสูงสุดในการจัดการน้้าเป็นของประชาชน
ถ้าค้าว่า “ประชาธิปไตย” ในความหมายและความเข้าใจของคนทั่วไปหมายถึงระบอบการ
ปกครองที่อ้านาจอธิปไตยเป็นของประชาชน ระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้้าของชุมชนหนองพันจันทร์
อาจกล่าวได้ว่า อ้านาจในการบริหารจัดการเป็นของประชาชนอย่างสมบูรณ์และมีผลประโยชน์ตกสู่ประชาชน
และชุมชนโดยตรง และหากอ้านาจสูงสุดหรืออธิปไตย มีความหมายเพียงอ้านาจนิติบัญญัติ อ้านาจบริหาร
และอ้านาจตุลาการแล้วไซร้ ดูเหมือนว่าอ้านาจสูงสุดของประชาชนชาวหนองพันจันทร์ในการบริหารจัดการ
น้้า อาจจ้าแนกได้มากกว่าอธิปไตยของประชาธิปไตยตามความหมายที่ร่้าเรียนและสอนกันมา หากแต่
ชาวหนองพันจันทร์เองไม่เคยคิด ไม่เคยบอก และไม่เคยต้องการที่จะเรียกสิ่งนี้ว่าเป็นประชาธิปไตยใน
ความหมายของพวกเขาหรือไม่
74