Page 76 - kpi20899
P. 76

“การถอดบทเรียนชุมชนเพื่อการปฏิรูปกระบวนการจัดการทรัพยากร : พลวัตแห่งการมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรน ้า
                        ในพื นที่ต้าบลหนองพันจันทร์ อ้าเภอบ้านคา จังหวัดราชบุรี”  โดย  ดร.ปริชัย ดาวอุดม และนายเจษฎา เนตะวงศ์







                             ความตระหนักในสิทธิชุมชน : ความรู้สึกร่วมในฐานะเจ้าของทรัพยากร ไม่ใช่เพียงแค่

                  ทรัพยากรน้้า หากแต่ชาวหนองพันจันทร์ถือได้ว่าเป็นผู้ที่มีความรู้สึกเป็นเจ้าของทรัพยากรทุกอย่างทุกชนิด

                  ที่อยู่ในชุมชน ทั้งดิน น้้า ป่าไม้ เนื่องจากคนในชุมชนมีความผูกพันกับพื้นที่มาตั้งแต่วัยเด็กส่วนใหญ่ล้วนแต่

                  คลุกคลี เรียนรู้ และพัฒนาพื้นถิ่นของตนแห่งนี้มาแต่วัยเด็ก ความสามารถในการจดจ้า และคิดค้านวณ

                  เกี่ยวกับฤดูกาล ปริมาณน้้าฝน การลาดเท และการไหลบ่าของน้้าในพื้นที่สะท้อนออกมาได้อย่างแม่นย้า

                  และแสดงถึงความรู้ที่ชาวบ้านมีในพื้นที่ชุมชนของตนเองอย่างลึกซึ้งด้วยการสั่งสมมายาวนาน


                                 “ต้องหยุดปล่อยได้แล้ว เพราะฝนไม่น่าจะมีแล้ว ถึงมีน้้าที่จะมาหาเราก็มาจาก

                         เขาฝากนี้ลูกเดียว ยังก็เก็บไว้ก่อน ถ้าฝนมาปลายฤดูอีกนิดหน่อยเราก็ยังปล่อยทัน

                         แต่ปล่อยไปแล้วถ้าไม่มีฝน ข้างล่างที่รอน้้าเราก็เดือดร้อนด้วย...อ่างเรานี่สูงกว่าราชบุรี
                         นะ เพราะห้วยจากที่นี่ไหลไปเมืองกาญจน์ก่อน แล้วค่อยไปไหลรวมกับแม่น้้าแล้วถึง

                         ไหลไปราชบุรี” (ข้อมูลจากการสนทนากลุ่มไม่สามารถระบุผู้พูด)


                  ความรู้ที่ลึกซึ้งในพื้นที่และทรัพยากรการได้เห็นป่าไม้และความอุดมสมบูรณ์ตั้งแต่วัยเด็กกระทั่งค่อยๆ

                  ลดความอุดมสมบูรณ์ลงจนถึงปัจจุบันท้าให้ชาวบ้านยิ่งหวงแหนสิ่งที่ตนมีอยู่ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ให้ความ

                  สนใจหรือรับรู้เรื่องสิทธิชุมชนกับทรัพยากร แต่สิ่งที่ชาวบ้านปฏิบัติแสดงออกยิ่งกว่าการใช้สิทธิ แต่เป็นการ

                  ประกาศความเป็นเจ้าของทรัพยากรร่วมกัน โดยเฉพาะน้้าที่กลายเป็นทรัพยากรเดียวที่ชาวหนองพันจันทร์

                  มีมากขึ้น เก็บไว้ได้และบริหารจัดการเองได้ ด้วยพระราชด้าริอันมีสายพระเนตรที่ยาวไกลของในหลวง

                  รัชกาลที่ 9 เพราะในขณะที่ดินและป่าไม้ร่อยหรอเสื่อมสภาพไปแล้ว แต่น้้าที่เคยแห้งแล้งไปกลับมามี

                  มากขึ้น จึงกลายเป็นความส้านึกในพระมหากรุณาธิคุณ และความภาคภูมิใจของคนในชุมชนทุกคน อีกทั้ง

                  การมีน้้าที่เพิ่มมากขึ้น เป็นน้้าที่สั่งได้เมื่อต้องการนั่นคือสามารถบริหารจัดการได้อย่างเต็มที่ ทรัพยากรอัน

                  มีค่านี้ได้ท้าให้ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านดีขึ้นเพราะสามารถท้าอาชีพการเกษตรได้หลากหลาย มี

                  ทางเลือก และเพิ่มปริมาณผลผลิตแบบสั่งได้ด้วยการใช้น้้าและให้น้้าในปริมาณที่พอเหมาะ



                                 “ชีวิตเราดีขึ นตั งแต่มีการจัดการน ้านี่นะ ดีขึ นสิ ดีขึ นมากทีเดียว พวกหน่อไม้ฝรั่ง
                         นี่ถ้าไม่มีน ้าก็หมดสิทธิ แต่พอมีน ้าก็ปลูกพืชได้อีกหลายอย่าง พอปลูกได้ก็เริ่มมีรายได้

                         มากขึ น พวกที่ท้าอ้อย ท้าสับปะรดก็เรียกว่าบังคับได้ เพิ่มน ้าหนักของอ้อยได้” (สัมภาษณ์
                         ลุงด้า 14 พฤษภาคม 2560)











                                                            75
   71   72   73   74   75   76   77   78   79   80   81