Page 81 - kpi20899
P. 81
“การถอดบทเรียนชุมชนเพื่อการปฏิรูปกระบวนการจัดการทรัพยากร : พลวัตแห่งการมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรน ้า
ในพื นที่ต้าบลหนองพันจันทร์ อ้าเภอบ้านคา จังหวัดราชบุรี” โดย ดร.ปริชัย ดาวอุดม และนายเจษฎา เนตะวงศ์
ของประชาธิปไตย และท้าให้ประชาชนได้เข้าไปมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่และเต็มใจ เพราะทุกคนรู้ว่า
ผลประโยชน์ของชุมชนคือผลประโยชน์ของประชาชนและอนาคตของลูกหลาน แต่การมีส่วนร่วมที่ลึกซึ้ง
และหลากหลายเช่นนี้ ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นได้ในชั่วพริบตา เพราะชุมชนแห่งนี้ได้ผ่านการสั่งสมทุนทางสังคม
ทั้งจากการสร้างจิตส้านึกร่วม และแบบแผนของความร่วมมือมาอย่างยาวนาน ด้วยประวัติการต่อสู้กับ
ความยากล้าบากร่วมกันในอดีตของคนต่างถิ่น ต่างเผ่าพันธุ์ ประกอบกับทุนทางสังคมใหม่ๆ ที่สร้างขึ้นจาก
การเผชิญวิกฤติทรัพยากรร่วมกัน มีการรับรู้ มีความพยายามปรับเปลี่ยนวิธีการเผชิญกับปัญหา เพื่อสนอง
ความต้องการร่วมกันของคนในชุมชน นับได้ว่าชุมชนแห่งนี้ยังมีพลังแห่งการสร้างสรรค์ ที่จะสั่งสมทุนทาง
สังคมของชุมชนต่อไป การบริหารจัดการน้้าของชุมชนนี้จึงไม่ได้ยึดติดกับรูปแบบหรือแบบแผนที่ถูกก้าหนด
มาจากภายนอกหรือจากส่วนราชการ แต่กลับมีการด้าเนินการด้วยโครงสร้างตามที่หน่วยงานภาครัฐ
ก้าหนด หากแต่กระบวนการและวิธีการถูกปรับเปลี่ยนให้ยืดหยุ่นและสอดคล้อง ภายใต้ความไว้วางใจที่
สั่งสมเป็นทุนทางสังคมมานาน อาทิ ภาพความเชื่อเรื่องผู้แทน ตัวแทน หรือผู้น้า ชาวบ้านจึงรู้ว่าใคร
คือตัวแทนที่ดีและมีจิตสาธารณะมากพอที่จะท้าหน้าที่เป็นปากเป็นเสียงเป็นผู้สื่อสารระหว่างเขากับ
กรรมการบริหารน้้าและหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องได้ ตัวแทนและผู้น้าของชาวหนองพันจันทร์จึงไม่เพียงแต่
เลือกด้วยการยกมือหรือเข้าคูหากากบาทด้วยเวลาไม่กี่วินาที แต่ตัวแทนและผู้น้าของพวกเขาต้องสั่งสม
ความไว้เนื้อเชื่อใจมาเป็นเวลานานหรือเกือบตลอดช่วงชีวิตของตนเอง และดูเหมือนชาวบ้านจะไม่เคย
ผิดหวังในตัวแทนของพวกเขาเลย
การมีส่วนร่วมตามแนวทางประชาธิปไตยชุมชนจึงต้องอาศัยการสร้างสรรค์ รูปแบบ
กระบวนการ ขั้นตอน ที่สอดคล้องกับทุนทางสังคมที่ชุมชนนั้นมีอยู่ ภายใต้การนิยามผลประโยชน์ร่วมกัน
ของประชาชนในชุมชนอย่างเป็นธรรม เมื่อนั้นการมีส่วนร่วมในกระบวนการประชาธิปไตยชุมชนจะเป็นไป
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นแบบฝึกหัดที่ดีส้าหรับการสร้างการมีส่วนร่วมในระดับอื่นๆ ไม่เพียงเป็น
แบบฝึกของประชาชนแต่ควรจะเป็นแบบฝึกของนักวิชาการ นักการเมือง และข้าราชการที่มีหน้าที่
เกี่ยวข้องกับระบบการจัดสรรผลประโยชน์ในสังคม (การเมือง) ด้วย ที่จะต้องเรียนรู้ เข้าใจและยอมรับว่า
ทุนทางสังคมเป็นเงื่อนไขส้าคัญส้าหรับการสร้างการมีส่วนร่วมในระบอบประชาธิปไตย ทั้งในระดับชุมชน
และระดับชาติ แม้กระนั้นค้าว่าทุนทางสังคมนี้ก็หาใช่ว่าจะสามารถลดทอนลงเป็นเพียงค้าว่า “ไทยๆ” ดังที่
ผู้ผิดหวังในระบอบประชาธิปไตยในสังคมไทยที่ผ่านมาพยายามจะน้าพาสังคมไทยไปสู่ประชาธิปไตยแบบ
ไทยๆ ซึ่งดูเหมือนเนื้อหาที่ถูกปกคลุมอยู่ภายใต้ค้าว่าไทยๆ นั้น จะมีความเป็นเผด็จการที่นิยามผลประโยชน์
ส่วนรวมให้มีสถานะที่เอื้อต่อการจัดสรรผลประโยชนในสังคมที่เลวร้ายลงไปกว่าที่เป็นอยู่
80