Page 86 - kpi20899
P. 86

“การถอดบทเรียนชุมชนเพื่อการปฏิรูปกระบวนการจัดการทรัพยากร : พลวัตแห่งการมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรน ้า
                        ในพื นที่ต้าบลหนองพันจันทร์ อ้าเภอบ้านคา จังหวัดราชบุรี”  โดย  ดร.ปริชัย ดาวอุดม และนายเจษฎา เนตะวงศ์







                  แสวงหาแนวทางแก้ไขอย่างรวดเร็วผ่านการสื่อสารออนไลน์ การจัดเวทีประชาคมบ่อยๆ ของหน่วยงาน

                  ภาครัฐ ภาคเอกชน มหาวิทยาลัย สร้างความเบื่อหน่ายและรบกวนเวลาท้างานของชาวบ้าน ข้อนี้เป็น

                  บทเรียนที่กรรมการบริหารจัดการน้้าได้เรียนรู้จึงจัดให้มีการประชุมแบบพบหน้ากันเพียงปีละครั้ง ที่เหลือ

                  เป็นการประชุมทางโทรศัพท์ และการมีส่วนร่วมผ่านระบบไลน์ กระนั้นการเชิญผู้มีส่วนได้เสียเข้าสู่

                  วงสนทนาและเข้าสู่ระบบการติดต่อสื่อสารก็ช่วยลดความขัดแย้งลงไปได้มาก


                         4.7.3 แต่เดิมในยุคที่รัฐยังมีคน เงิน และทรัพยากรจ้ากัด ชาวบ้านต่างก็มีชีวิตอยู่กับพื้นถิ่นของ

                  ตัวเองมาในฐานะเจ้าของทรัพยากร เป็นเจ้าของส่วนตัวและเป็นเจ้าของร่วมกันภายใต้กติกาการแบ่ง

                  ที่ชัดเจน แต่เมื่อรัฐมีเงินมากขึ้น คนมากขึ้น รัฐก็ขยายขอบเขตการให้บริการไปสู่ชุมชนท้องถิ่น ทรัพยากร

                  ที่เคยเป็นของชุมชนก็ถูกผนวกรวมมาเป็นอ้านาจของรัฐในการบริหารจัดการกฎหมาย เจ้าหน้าที่รัฐเอง

                  ซึ่งต้องปฏิบัติการตามหน้าที่จึงมักขัดแย้งกับชาวบ้านที่รู้สึกว่าตนเอง หรือปู่ย่าตายายของตนเองเป็นเจ้าของ

                  อยู่แต่เดิม หากฝ่ายรัฐจะท้าความเข้าใจในจุดนี้และชาวบ้านเองยอมรับในความเปลี่ยนแปลงและสร้างพลัง

                  ที่เข้มแข็งในอันที่จะพิสูจน์ให้เห็นว่าประชาชนสามารถจัดการทรัพยากรได้อย่างดี และได้อย่างมีพลังและ

                  เป็นธรรม ฝ่ายรัฐเองก็จะสามารถผ่อนปรนหรือเปลี่ยนทัศนคติให้อ้านาจและเคารพการตัดสินใจของกลุ่ม

                  องค์กรของชาวบ้านเหมือนดังที่เกิดขึ้นที่ชุมชนหนองพันจันทร์ นโยบายเพื่อการปฏิรูปการจัดการ

                  ทรัพยากรตามรัฐธรรมนูญ จะส้าเร็จได้จึงต้องค้านึงถึงประเด็นนี้เป็นอย่างมาก


                         4.7.4 การศึกษาและระบบการจัดการความรู้ที่เป็นของชุมชนจะช่วยเสริมพลังชาวบ้านในการ

                  จัดการทรัพยากรได้เป็นอย่างดียิ่ง หากสามารถจัดการทรัพยากรและทุนความรู้ไม่ให้แยกจากวิถีชีวิตและ

                  ตอบสนองต่อบริบทชุมชน บริบทสังคมภายนอกได้จะเป็นตัวเร่งฟื้นฟูชุมชนที่มี แต่คนย้ายถิ่นให้กลับเข้ามา

                  ประกอบอาชีพและอยู่ในชุมชนต่อไป ในพื้นที่หนองพันจันทร์ เมื่อความรู้ การศึกษาและการจัดการ

                  ทรัพยากรเอื้อต่อการมีชีวิตที่ดีในอนาคต ลูกหลานก็เริ่มละทิ้งชีวิตเมืองกลับสู่ชุมชน มาสานต่ออาชีพของ

                  พ่อแม่ การศึกษาเพื่อชุมชนจึงต้องด้าเนินการที่ควบคู่สอดคล้องไปกับการจัดการผลประโยชน์และ

                  ทรัพยากรส่วนรวมด้วย















                                                            85
   81   82   83   84   85   86   87   88   89   90   91