Page 69 - kpi20899
P. 69
“การถอดบทเรียนชุมชนเพื่อการปฏิรูปกระบวนการจัดการทรัพยากร : พลวัตแห่งการมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรน ้า
ในพื นที่ต้าบลหนองพันจันทร์ อ้าเภอบ้านคา จังหวัดราชบุรี” โดย ดร.ปริชัย ดาวอุดม และนายเจษฎา เนตะวงศ์
สยบยอม หากแต่มีการน้ามาคิดต่อ คาดหมายเหตุการณ์ผสานกับความรู้ภูมิปัญญาที่มีอยู่ในตัวของแกนน้า
และพลังจากการปรึกษาหารือกับชาวบ้าน ท้าให้สิ่งที่ขอความร่วมมือจากเครือข่ายภายนอกชุมชนเกิดดอก
ออกผลเป็นความส้าเร็จในทุกๆ ด้าน ก็ยิ่งท้าให้เครือข่ายจากภายนอกพร้อมที่จะให้การสนับสนุน และ
ให้ความส้าคัญกับการขับเคลื่อนความส้าเร็จในพื้นที่หนองพันจันทร์อย่างมาก
4.4.4 ทุนทางสังคมที่เกิดจากพลังแห่งการสร้างสรรค์ในวิกฤติทรัพยากรน้้า
แม้ว่าอ่างเก็บน้้าที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชด้าริให้สร้างขึ้น
จะเป็นหนึ่งในอ่างเก็บน้้าหลายแห่งในจังหวัดราชบุรี ที่พระองค์ทรงมีพระราชด้าริให้สร้างเพื่อชาวบ้านและ
เกษตรกร อันมีโครงการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2518 สร้างแล้วเสร็จราวปี 2528-2530 แต่ชาวบ้านหนองพันจันทร์
กลับมีโอกาสได้ใช้น้้าในห้วยดังกล่าวน้อยมาก เนื่องจากระบบการปล่อยน้้าเป็นการปล่อยผ่านล้าห้วย
เพียงอย่างเดียว ซึ่งผู้ที่ได้ประโยชน์สูงสุดในเวลานั้นคือบริษัทเอกชนที่มาลงทุนท้าสวนผลไม้ในพื้นที่ ซึ่งมีทุน
สามารถสร้างฝายทดน้้า น้าน้้าไปใช้ในที่ดินของตนเองและสามารถติดต่อขอสนับสนุนการปล่อยน้้า
จากกรมชลประทานได้ตามความต้องการ ในขณะที่ชาวบ้านริมห้วยบางส่วนเท่านั้นที่สามารถใช้น้้าจาก
อ่างเก็บน้้าได้ ส่วนชาวบ้านที่อยู่ห่างจากล้าห้วยก็ต้องรอน้้าฝนเพื่อท้าการเกษตรต่อไป องค์การบริหาร
ส่วนต้าบลสามารถท้าได้เพียงการสร้างฝายชะลอน้้าในล้าห้วยเพื่อกักเก็บน้้าไว้ให้ประชาชนใช้เป็นระยะๆ
เท่านั้น เนื่องจากงบประมาณที่มีจ้ากัด น้้าที่ถูกปล่อยจากอ่างนอกเหนือจากนั้นก็ปล่อยทิ้งสู่ล้าน้้าตามทาง
ธรรมชาติอย่างไร้การวางแผน แต่ทว่าภายใต้สภาวะการเปลี่ยนแปลงของทรัพยากรน้้าในพื้นที่ท้าให้คน
ในชุมชนเริ่มคิดถึงการน้าเอาน้้าจากอ่างเก็บน้้าห้วยมะหาดมาใช้ ภาพความแห้งแล้งที่ชุมชนเริ่มเผชิญถี่ขึ้น
ครั้งแล้วครั้งเล่า ยังเป็นภาพที่ชาวบ้านสะท้อนผ่านบรรดาโต๊ะเก้าอี้ที่วัดแห่งหนึ่งในชุมชน เมื่อราวปี 2546
การปล่อยน้้าออกจากเขื่อนเพื่อสนับสนุนการปลูกพืชของบริษัทเอกชน ไปตามล้าห้วยจนน้้าแห้งหมดเขื่อน
เห็นตอไม้เต็มพื้นอ่าง เจ้าอาวาสวัดในชุมชนแห่งหนึ่งได้จ้างคนลงไปตัดไม้น้าขึ้นมาท้าโต๊ะเก้าอี้ส้าหรับใช้ใน
กิจกรรมของทางวัดและชุมชนจ้านวนมาก
“การปล่อยน ้าจนแห้งเห็นก้นอ่าง มันเป็นบทเรียนที่ดีที่ท้าให้คิดว่า ถ้าเรา
ยังปล่อยปละละเลย ...ไม่มีใครไปพูดอะไร ปัญหาก็จะตามมา ตั งแต่วันนั นมาก็เลยคิด
วิธีการใช้น ้า คือต่อไปการจะใช้น ้าตรงนี ต้องมีระบบ” (สัมภาษณ์ลุงด้า 14 พฤษภาคม
2560)
68