Page 67 - kpi20899
P. 67
“การถอดบทเรียนชุมชนเพื่อการปฏิรูปกระบวนการจัดการทรัพยากร : พลวัตแห่งการมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรน ้า
ในพื นที่ต้าบลหนองพันจันทร์ อ้าเภอบ้านคา จังหวัดราชบุรี” โดย ดร.ปริชัย ดาวอุดม และนายเจษฎา เนตะวงศ์
ชาวบ้าน จะมีการออกความเห็นและหาข้อสรุปกันอย่างเต็มที่ ซึ่งนับได้ว่าเป็นลักษณะเฉพาะที่เป็นทุนส้าคัญ
ของชาวหนองพันจันทร์ กล่าวคือ ประชาชนหรือชาวบ้านรู้หน้าที่ของตนเองในการสนทนาแลกเปลี่ยน พูดคุย
ถกเถียงเพื่อหาข้อสรุประดับกลุ่ม แต่เมื่อผู้น้าหรือตัวแทนกลุ่มต้องน้าประเด็นปัญหาความต้องการและ
แนวทางของกลุ่มไปเจรจากับบุคคลภายนอก ชาวบ้านจะไม่เข้าไปแทรกแซง หรือคัดค้านในขั้นดังกล่าว
ท้าให้การประสานงานและการขับเคลื่อนโครงการของรัฐในมิติต่างๆ สามารถหาข้อสรุปได้โดยง่ายและสร้าง
การมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างมีพลัง
3) แบบแผนความร่วมมือแบบองค์กร
เป็นระยะเวลาหลายสิบปีที่ชาวหนองพันจันทร์แทบจะไม่รู้จักหรือมีแบบแผนความ
สัมพันธ์กับองค์กรที่เป็นทางการ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายปกครองส่วนท้องถิ่น อ้าเภอ จังหวัด หรือฝ่ายปกครอง
ท้องที่เพราะผู้ใหญ่บ้าน ก้านันที่ปกครองหนองพันจันทร์เป็นผู้ใหญ่ ก้านันในพื้นที่ห่างไกลมาก เพียงมี
ขอบเขตอ้านาจเข้ามาปกครองตามกฎหมาย ชาวหนองพันจันทร์จึงมีทั้งความรู้สึกที่ต้องการองค์กรทางการ
เหล่านี้เข้ามาอ้านวยความสะดวกอันเกี่ยวข้องกับเรื่องราวในทางกฎหมายของบ้านเมือง ขณะเดียวกัน
ด้วยความที่ชาวบ้านอยู่โดยไม่จ้าเป็นต้องมีองค์กรใดเข้ามาเกี่ยวข้องสัมพันธ์ ได้หล่อหลอมให้ชาวหนอง
พันจันทร์ เน้นการพึ่งตนเองและแก้ปัญหาด้วยตัวเอง คือไม่พยายามหาใครเข้ามารับเหมาท้า
ในเวลาต่อมาที่หนองพันจันทร์เริ่มมีผู้ใหญ่บ้านจนกระทั่งมีการขยายหมู่บ้าน กลายมาเป็น
ต้าบล การปกครองท้องที่ในรูปแบบก้านัน ผู้ใหญ่บ้าน และสภาต้าบล ได้กลายมาเป็นองค์กรหลักที่สร้าง
แบบแผนความสัมพันธ์แบบใหม่ขึ้น คนรุ่นเก่ายุคบุกเบิกหลายคนถูกเลือกให้เป็นผู้ใหญ่บ้าน ก้านัน และ
ผู้ทรงคุณวุฒิต่างๆ ในองค์กรที่เรียกว่าสภาต้าบล ซึ่งชาวบ้านก็มีความสัมพันธ์กับบุคคลเหล่านี้แบบคนรู้จัก
กันทั่วไป การได้มาซึ่งต้าแหน่งต่างๆ ถูกพิจารณาจากบทบาทในการท้างานร่วมกับคนในชุมชนเป็นหลัก
การเลือกตั้งเป็นเพียงพิธีกรรมที่อาจถูกจัดขึ้นตามแบบแผนของทางราชการเพราะชาวบ้านเกือบจะมี
ฉันทามติไว้แล้วว่าใครควรเป็นอะไรและท้าอะไร เราจึงยังสามารถเห็นภาพของผู้น้าองค์กรทั้งที่ยังด้ารง
ต้าแหน่งอยู่และผู้น้าที่วางมือจากงานในองค์กรทางการเหล่านี้ มีบทบาทขับเคลื่อนเป็นแกนน้าชุมชน
ในหลายมิติ หากจะกล่าวว่าองค์การบริหารส่วนต้าบลหรือองค์กรทางการอื่นๆ ในชุมชนเป็นเพียงส่วนที่
เข้ามาเติมเต็มให้กับคนในชุมชนเท่านั้น เพราะชาวหนองพันจันทร์ไม่ได้มองว่าเมื่อมีองค์กรเหล่านี้ขึ้นมาแล้ว
จะมอบภาระทั้งหมดให้องค์กรเหล่านี้ท้าไป แต่ชาวบ้าน ผู้น้าเก่า ผู้น้าปัจจุบันยังร่วมแรงกันอย่างแข็งขัน
ในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาต่างๆ ของชุมชน ภาพที่สะท้อนได้ดีก็คือการเกิดขึ้นของธนาคารชุมชนที่มี
66