Page 65 - kpi20899
P. 65
“การถอดบทเรียนชุมชนเพื่อการปฏิรูปกระบวนการจัดการทรัพยากร : พลวัตแห่งการมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรน ้า
ในพื นที่ต้าบลหนองพันจันทร์ อ้าเภอบ้านคา จังหวัดราชบุรี” โดย ดร.ปริชัย ดาวอุดม และนายเจษฎา เนตะวงศ์
4.4.3 ทุนทางสังคมที่เกิดจากแบบแผนความร่วมมือของคนในชุมชน
แบบแผนความร่วมมือของคนในชุมชนถือได้ว่าเป็นจุดเด่นที่ส้าคัญอันหนึ่งของชุมชนหนองพัน-
จันทร์ เนื่องจากในระยะเวลาที่ผ่านมาชาวหนองพันจันทร์ได้มีความร่วมมือกันในชุมชนที่เป็นแบบแผน
ในหลายลักษณะทั้งที่ชาวบ้าน หรือผู้น้าชุมชนได้ริเริ่มขึ้นเอง และความร่วมมือที่ได้รับการส่งเสริมจาก
หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงองค์กรพัฒนาระหว่างประเทศ แต่สิ่งที่ท้าให้แบบแผนความร่วมมือ
ที่เกิดขึ้นที่หนองพันจันทร์แตกต่างไปจากที่อื่นๆ ก็คือ ชาวหนองพันจันทร์สามารถท้าให้แบบแผนความ
ร่วมมือทุกรูปแบบนั้นมีอัตลักษณ์เป็นของชาวหนองพันจันทร์เอง ซึ่งการที่มีแบบแผนความร่วมมือที่สั่งสม
มาอย่างยาวนานและมีการปรับประยุกต์ให้เข้ากับชุมชนของตนเองนี้ นับเป็นเงื่อนไขส้าคัญในการสร้างการ
มีส่วนร่วมของชาวบ้านในทุกระดับ ทุกมิติ และเกือบทุกกิจกรรมของชุมชน แบบแผนความร่วมมือของชาว
หนองพันจันทร์อาจสามารถจ้าแนกออกได้เป็นสี่แบบแผนด้วยกันกล่าวคือ
1) แบบแผนความร่วมมือแบบเครือญาติ
การที่ชุมชนหนองพันจันทร์มีอายุราว 50-60 ปี และเกิดขึ้นจากการย้ายถิ่นฐานของผู้คน
หลากหลายภูมิล้าเนา ดูเหมือนจะท้าให้ความสัมพันธ์ฉันพี่น้องหรือเครือญาติไม่น่าจะปรากฏให้เห็น
ได้มากนัก ประกอบกับลักษณะการตั้งบ้านเรือนของประชาชนก็อยู่ในลักษณะกระจายตัวไปตามแนวเขต
ที่ท้ากิน จึงอยู่ห่างไกลกันมาก แต่ความเป็นเครือญาติแบบดั้งเดิมในลักษณะการโยกย้ายเข้ามาพร้อมกัน
ก็พอมีให้เห็นบ้าง เนื่องจากมีการชักชวนกันมาส้าหรับเครือญาติทางสายโลหิต ขณะที่เครือญาติอีกรูปแบบ
หนึ่งก็เกิดขึ้นเช่นกันนั่นก็คือเครือญาติที่เกิดจากการเกี่ยวดองกันในชุมชนผ่านการแต่งงาน แต่รูปแบบ
ที่ส้าคัญอีกรูปแบบหนึ่งก็คือเครือญาติที่เกิดจากการนับถือกันฉันญาติพี่น้อง ซึ่งก่อตัวมาจากการเอื้อเฟื้อ
ช่วยเหลือกันมาในอดีต การได้ร่วมทุกข์ร่วมสุข เฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุขกันในอดีต และร่วมกิจกรรมในชุมชน
มาอย่างต่อเนื่อง จึงมีการนับถือกันเป็นพี่ป้าน้าอา และเพื่อนเกิดขึ้น
“เมื่อก่อนมันล้าบาก บ้านก็สร้างง่ายๆ อยู่ห่างๆ ป้ามีพี่น้องมาอยู่ด้วย ก็แยก
กันไปเดี๋ยวนี เรียกว่าอยู่คนละหมู่เพราะที่ดินมันไกลกัน...แต่ที่เขาแต่งกันเขาดองกัน
ก็เรียกว่าเป็นญาติได้ซินะ...ส่วนคนอื่นที่ไม่ใช่ญาติกันเจอกันก็เอิ นกันไปว่าป้ามั่งพี่มั่ง
ลุง ตา นานเข้าก็เหมือนเป็นญาติ ทีนี พอมีอะไรมันก็มารวมกันง่าย หรือถ้าเขาไม่มารวม
เขารู้ว่าเราไปฟังข่าวประชุมอะไรมา ก็ฟังต่อจากเราก็ว่าเหมือนกับได้ไปเอง” (สัมภาษณ์
พี่ปราง 22 มิถุนายน 2560)
64