Page 61 - kpi20899
P. 61

“การถอดบทเรียนชุมชนเพื่อการปฏิรูปกระบวนการจัดการทรัพยากร : พลวัตแห่งการมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรน ้า
                      ในพื นที่ต้าบลหนองพันจันทร์ อ้าเภอบ้านคา จังหวัดราชบุรี”  โดย  ดร.ปริชัย ดาวอุดม และนายเจษฎา เนตะวงศ์







               ในแต่ละยุคสมัย ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นการใช้และการจัดการทรัพยากรที่เกิดขึ้นภายใต้เงื่อนไขที่แตกต่าง

               กระทั่งเมื่อเกิดภาวะวิกฤตในการใช้ประโยชน์จากทรัพยากร จึงส่งผลให้ชาวบ้านเริ่มหันกลับมาตั้งค้าถาม

               และแสวงหาแนวทางที่จะลุกขึ้นมาต่อสู้และต่อรองกับอ้านาจภายนอกที่เข้ามาควบคุม จัดการ และใช้

               ประโยชน์จากทรัพยากรที่มีอยู่ภายในชุมชน บนพื้นฐานของกระบวนการมีส่วนร่วมตามแนวทางประชาธิปไตย
               ชุมชน



               4.4 เงื่อนไขและกระบวนการมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากร

                       ประเทศไทยภายใต้การเร่งรัดพัฒนาตามแนวทางการท้าให้ทันสมัย ตลอดระยะเวลากว่า 50 ปี

               ที่ผ่านมานั้น ได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของผู้คน ชุมชน และทรัพยากรธรรมชาติ

               อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เป็นที่ประจักษ์ชัดว่าภายใต้วาทกรรมการพัฒนาสู่ความทันสมัยดังกล่าว ได้ท้าให้

               ประชาชนได้รับการศึกษาและเรียนรู้ถึงบุคลิกภาพที่เป็นที่ปรารถนา องค์ความรู้แบบตะวันตก และวิถีชีวิต

               แบบทันสมัยได้เข้ามาแทนที่เอกลักษณ์อัตลักษณ์ของบุคคลและชุมชน ตลอดจนการผลิตที่เคยเป็นไปเพื่อ

               การยังชีพได้แปรเปลี่ยนไปสู่การผลิตเพื่อการค้า การเร่งรัดขยายพื้นที่การผลิตได้เกิดขึ้นอย่างจริงจังและ

               เข้มข้น แน่นอนว่าประชาชนในชนบทหลายคนเพื่อแสวงหาชีวิตที่ดีกว่าในยุคของการพัฒนาย่อมมุ่งหวัง

               ที่จะมีที่ดินในการท้าไร่ ท้านาเพื่อโอกาสของครอบครัวในการสร้างรายได้จากการเกษตรที่มุ่งไปสู่การค้า

               ชุมชนหนองพันจันทร์ก็ไม่ต่างอะไรกับชุมชนอื่นๆ ในพื้นที่ป่าเขา กล่าวคือเมื่อการส่งเสริมการเกษตรและ
               การพัฒนาเคลื่อนเข้าสู่ชุมชน การขยายพื้นที่การผลิตและการเร่งรัดเพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรก็เป็นไป


               อย่างเข้มข้น ประกอบกับพื้นดินที่ยังคงอุดมสมบูรณ์เนื่องจากเป็นพื้นที่ของป่าเขาดั้งเดิม ผลผลิตก็ยิ่งได้รับ
               ตอบแทนกลับมามากยิ่งขึ้น หากแต่เมื่อเวลาผ่านไปเพียงไม่กี่ปีจากการเร่งรัดใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่าง

               เข้มข้น ขาดการวางแผน ได้ท้าให้ธรรมชาติมีความเปลี่ยนแปลงไปสู่ความเสื่อมโทรมลงอย่างรวดเร็ว น้้าฝน

               ซึ่งเป็นทรัพยากรน้้าแหล่งเดียวที่ใช้ในการเกษตรไม่ตกต้องตามฤดูกาล แต่เมื่อฝนมาก็ท้าให้เกิดน้้าป่า

               ไหลหลากอย่างรวดเร็ว สร้างความเสียหายให้แก่ชีวิตและทรัพย์สิน เมื่อน้้าแล้งก็ไม่สามารถหาแหล่งน้้าใด

               มาทดแทนได้ ที่เป็นเช่นนี้ชาวบ้านเชื่อว่าเนื่องจากผืนป่าลดลงอย่างรวดเร็ว ขณะที่ดินซึ่งเคยอุดมสมบูรณ์

               ก็กลับลดความอุดมสมบูรณ์ลงและมีสภาพเป็นดินเสื่อมโทรม ปัญหาต่างๆ จึงเริ่มถาโถมรุมเร้าคนในชุมชน

               ทั้งฝนทิ้งช่วง และความอุดมสมบูรณ์ที่ลดลง แต่ต้นทุนและหนี้สินกลับเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลท้าให้คนใน

               ชุมชนเป็นหนี้กันแทบทุกหลังคาเรือน บางคนถึงกับเลือกที่จะจบชีวิตตนเองเพื่อพ้นจากปัญหา หากแต่

               ภายใต้สภาวการณ์ที่บีบคั้น ชาวหนองพันจันทร์กลับหาทางที่จะต่อสู้และปรับตัวให้ได้  โดยอาศัยพลังแห่ง
               การสร้างสรรค์ที่ยังคงมีอยู่ในตัวของชาวบ้านและผู้น้าชุมชน น้าไปสู่การเปลี่ยนแปลงด้านการจัดการ







                                                         60
   56   57   58   59   60   61   62   63   64   65   66