Page 81 - kpi20896
P. 81
80
มักให้ความเห็นว่าการใช้จ่ายของรัฐไปในประเด็น เช่น รายจ่ายด้านสังคม การศึกษา จะส่งผลดีต่อการลดความ
เหลื่อมล้้าในอนาคต อย่างไรก็ตามพบผลในทางตรงข้ามอยู่บ่อยครั้ง (Kahanec and Zimmermann, 2014)
กล่าวคือ การใช้จ่ายของรัฐบาลมีการกระจายไปยังกลุ่มประชากรที่ไม่ได้คาดหวังไว้ เช่น แทนที่จะกระจายไปสู่
คนช่วงชั้นล่าง กลับกระจุกอยู่คนช่วงชั้นกลาง ดังเช่น รายจ่ายการศึกษาในประเทศอินเดีย และรายจ่ายด้าน
สาธารณสุขในประเทศก้าลังพัฒนาทั่วไป (Tanzi, 1974; Alesina, 1998; Davoodi et al 2003; Rhee et al,
2014; โกสินทร์ เตชะนิยม, 2561) ซึ่งผลดังกล่าวสอดคล้องกับงานวิจัยชิ้นนี้ที่พบว่า ยิ่งรายจ่ายของรัฐบาล
มากขึ้นเท่าไร กลับกลายเป็นการเพิ่มความเหลื่อมล้้าและท้าให้สัดส่วนที่ได้รับจากการกระจายรายได้ในช่วงชั้น
ล่างสุดลดลง
เมื่อกล่าวถึงสภาพเชิงประจักษ์โดยทั่วไป รัฐบาลของกลุ่มประเทศรายได้ปานกลางต่างพยายาม
อย่างยิ่งที่จะพัฒนาและยกระดับการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ซึ่งทิศทางในการใช้จ่ายจึงมีลักษณะร่วมกันอย่างน้อย
2 ประการคือ 1) การใช้จ่ายของรัฐบาลมุ่งเน้นเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ โดยที่ผู้รับผลประโยชน์มักเกิดแก่ผู้ที่มี
ความพร้อมเชิงเศรษฐกิจ จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ผลดังกล่าวจะกระจายไปยังกลุ่มช่วงชั้นอื่นที่ไม่ใช่ช่วงชั้นที่ยากจน
ที่สุด 2) เมื่อเกิดระดับการพัฒนาทางเศรษฐกิจแล้วก็จะยิ่งมีการใช้จ่ายมากขึ้น กล่าวคือ เมื่อมีความร่้ารวย
มากขึ้นย่อมมีรายจ่ายมากขึ้น เกิดเป็นวงจรที่ซ้้าไปมาในข้อแรก ยิ่งจะท้าให้ความห่างของช่วงชั้นบนสุดและ
ล่างสุดห่างมากขึ้น ซึ่งเป็นที่มาของความเหลื่อมล้้าด้านรายได้ (Gurgul and Lach, 2011; Sultan and Sodik,
2010; Mukaramah, et al., 2011) และเมื่อกล่าวอีกนัยหนึ่ง อัตราส่วนการใช้จ่ายของรัฐบาลเป็นสัดส่วนที่
คิดมาจากผลิตภัณฑ์มวลรวม ซึ่งเป็นตัวแทนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ คล้ายคลึงกับรายได้สุทธิตามค่าเงิน
สากลที่มีผลเชิงลบต่อสัมประสิทธิ์ความเหลื่อมล้้าในแบบจ้าลองก่อนหน้า ดังนั้น ด้วยตรรกะแบบเดียวกันการ
ใช้จ่ายรวมของรัฐบาลจึงให้ผลเชิงลบต่อการกระจายของรายได้ไปยังช่วงชั้นล่างสุด ซึ่งพบผลดังกล่าวในงานวิจัย
ชิ้นนี้
ดัชนีหลักนิติธรรม (ROL) ตัวแปรนิติธรรม (Rule of Law) เป็นตัวแปรที่ World Bank
จัดเก็บและค้านวณค่าจากดัชนีย่อยอื่นที่มีองค์ประกอบหลากหลาย ครอบคลุมประเด็นเกี่ยวกับความเชื่อมั่น
ต่อการใช้และบังคับใช้กฎหมาย โดยมีนิยามอย่างเป็นทางการว่า “Rule of Law captures perceptions of
the extent to which agents have confidence in and abide by the rules of society, and in
particular the quality of contract enforcement, property rights, the police, and the courts, as
well as the likelihood of crime and violence.” ซึ่งหมายถึงความรู้สึกเชื่อมั่น ไว้วางใจเจ้าหน้าที่ของรัฐ
ในการบังคับใช้กฎหมาย ว่าเป็นไปอย่างถูกต้องและเสมอภาค โดยมีค่าอยู่ระหว่าง -2.5 – 2.5 ทั้งนี้จากข้อมูล
พบว่าค่าของความเชื่อมั่นในหลักนิติธรรมของประเทศกลุ่มตัวอย่างอยู่ระหว่าง -1.325 (Kyrgyz Republic,