Page 33 - kpi20896
P. 33

32



              เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประชาชนทุกคนพอใจ  (Gradstein, Milanovic and Ying, 2001)  ทั้งนี้

              โดยกลไกทางการเมืองจะสามารถวัดความต้องการของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด

              จึงขึ้นอยู่กับปัจจัยที่ส้าคัญ 2 ประการด้วยกัน


                             ประการแรก กลไกทางการเมืองจะต้องให้โอกาสประชาชนอย่างเสมอภาค ในการแสดงออก

              ซึ่งความคิดเห็นและความต้องการของตนอย่างเสรีต่อบทบาทการกระจายรายได้ของรัฐบาล


                             ประการที่สอง ประชาชนมีความรู้มีข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับนโยบายหรือการด้าเนินการของ

              รัฐบาลมากน้อยเพียงใด ซึ่งทั้งสองส่วนหากมีระดับที่สูง ย่อมน้าไปสู่กลไกการเมืองที่สามารถตอบสนองความ

              ต้องการและการกระจายรายได้ที่ตรงกับความเป็นจริงและความต้องการของพลเมือง ซึ่งเกิดขึ้นได้ยากในความ

              เป็นจริง


                         ผลจากการทบทวนวรรณกรรมถึงแนวคิดที่น้ามาสู่เหตุผลของรัฐบาลในการเข้ามาจัดสรรการ

              กระจายรายได้พบว่ารัฐพยายามกระจายรายได้จากส่วนที่ร่้ารวยมาสู่ส่วนที่ยากจนด้วยนโยบายทางสังคม หรือ

              รายจ่ายสาธารณะทางสังคมนั่นเอง ซึ่งการกระจายรายได้ดีขึ้นนั้นรัฐมักใช้วิธีการสนับสนุนกลุ่มด้อยโอกาส

              ด้วยวิธีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเก็บภาษีหรือแนวนโยบาย


                     2.1.4 Compensation Theory

                         ทฤษฎีนี้มีจุดมุ่งหมายที่จะอธิบายถึงผลกระทบของโลกาภิวัตน์ที่มีต่อการขยายตัวของรายจ่าย


              สาธารณะ โดยมีฐานคติว่ายิ่งประเทศมีอัตราการพึ่งพิง 1) การค้าระหว่างประเทศ  2) การเงินระหว่างประเทศ
              มากขึ้น จะยิ่งท้าให้ประเทศต้องลงทุนและมีรายจ่ายสาธารณะด้านสังคม เช่น การศึกษา การสาธารณสุข


              ที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นหลักประกันแก่พลเมืองไม่ให้ถูกกระทบจากการแข่งขันและวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลง
              ทั้งนี้ แนวคิดดังกล่าวมีความแตกต่างจากแนวคิดการค้าระหว่างประเทศแบบดั้งเดิม ที่เชื่อว่าการค้าและการ


              ลงทุนระหว่างประเทศจะพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้า นักวิชาการกลุ่มนี้กลับมองว่า การค้าและการลงทุน
              ระหว่างประเทศกลับส่งผลให้เกิดความเหลื่อมล้้าและรายจ่ายที่เพิ่มมากขึ้น เช่น Rodrick (1998), Geoffrey


              (2000), Segura – Ulbiergo (2002)  ทั้งนี้ แนวความคิดดังกล่าวยังมีผลงานวิจัยยืนยันผลจ้านวนน้อย ผู้เขียน
              จึงหยิบยกเพียงบางส่วนที่เห็นผลชัดเจนมาน้าเสนอ คือ



                             Cameron (1978)  ศึกษากลุ่มประเทศ OECD 18 ประเทศระหว่างปี ค.ศ.1960-1975

              พบว่าสาเหตุของการขยายตัวของรายจ่ายสาธารณะเกิดขึ้นจากการขยายตัวอย่างรวดเร็วของรายจ่ายด้าน

              สวัสดิการสังคมในประเทศเหล่านั้น    ซึ่งมีสาเหตุหลายประการทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง เช่น

              1) การที่ประเทศเหล่านี้ต้องพึ่งพาการค้าระหว่างประเทศในอัตราที่สูง (Openness of Economy) ท้าให้เมื่อมี
   28   29   30   31   32   33   34   35   36   37   38