Page 32 - kpi20764
P. 32
ปัญหาการปรับปรุงกฎหมายที่มีผลใช้บังคับอยู่ตามแนวทางปฏิรูปประเทศไทยตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม: การเสริมประสิทธิภาพ
ด้านการคุ้มครองของผู้ให้ข้อมูล (Whistleblower) ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต การกระทำาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และการใช้อำานาจไม่ถูกต้องซึ่งกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ 31
ทั้งนี้ การลดหย่อนโทษเห็นควรจะมีการกำาหนดเอาไว้แต่เฉพาะบางคดี
เท่านั้น ไม่ใช่ทุกเรื่อง อาทิ คดีทุจริต คดียาเสพติด เป็นต้น
(20) กฎหมายคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสควรนำาหลักสุจริต (good
faith) และมีเหตุอันควรเชื่อว่า (reasonably belief) ของกฎหมาย
ต่างประเทศมาพิจารณาการให้ข้อมูลและการนำามาตรการคุ้มครองมาใช้
กับผู้ให้ข้อมูลเพื่อช่วยลดปัญหาการแกล้งฟ้องและทำาให้ข้อมูลมีมูล
น่าเชื่อถือและมีคุณภาพมากกว่าจะเป็นข้อมูลทั่วๆ ไป ที่หาเอาได้จาก
สื่อสาธารณะหรือข่าวลือ นอกจากนี้ ในระหว่างดำาเนินการตรวจสอบ
ผู้กระทำาความผิดจากเบาะแสหรือข้อมูลที่ได้จากผู้แจ้ง ให้กรรมการมี
อำานาจออกคำาสั่งหยุดการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวเพื่อป้องกันการใช้อำานาจ
หน้าที่แกล้งผู้แจ้งเบาะแส
(21) การออกกฎหมายคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสซึ่งเป็นกฎหมาย
กลางควรให้การคุ้มครองผู้เปิดเผยการกระทำาความผิดหรือพยานทั้ง
ทางแพ่ง ทางอาญา ทางปกครอง ตลอดจนทางวินัยอันเนื่องมาจาก
การให้ถ้อยคำา หรือให้วัตถุ เอกสาร หลักฐาน หรือพยานหลักฐานอื่น
ที่เกี่ยวข้องแก่คณะกรรมการ หรือหน่วยงานของรัฐ
(22) กฎหมายคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสสมควรกำาหนดนิยาม
ความหมายของการโต้ตอบเพื่อนำามาพิจารณากำาหนดเป็นแนวทางใช้
บังคับมาตรการคุ้มครองผู้ให้ข้อมูลให้เหมาะสมกับลักษณะการโต้ตอบ
โดยในกฎหมายจะต้องมีความชัดเจนในเรื่องที่เกี่ยวกับข้อมูลของเรื่อง
ที่อยู่ในอำานาจหน้าที่ และคุณสมบัติของผู้แจ้งเบาะแสเมื่อหน่วยงาน
ภาครัฐได้รับการร้องขอให้ใช้มาตรการคุ้มครองผู้ให้ข้อมูล และ
ให้หน่วยงานนั้นเสนอคำาร้องขอต่อคณะกรรมการคุ้มครองผู้ให้ข้อมูล
เพื่อพิจารณาอนุมัติให้ความคุ้มครอง อาทิ การย้ายที่อยู่หรือจัดหาที่พัก
อันเหมาะสม การประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำาเนินการ
inside_WhistleBlower_c1(cs5).indd 31 13/2/2562 16:41:38