Page 28 - kpi20764
P. 28
ปัญหาการปรับปรุงกฎหมายที่มีผลใช้บังคับอยู่ตามแนวทางปฏิรูปประเทศไทยตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม: การเสริมประสิทธิภาพ
ด้านการคุ้มครองของผู้ให้ข้อมูล (Whistleblower) ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต การกระทำาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และการใช้อำานาจไม่ถูกต้องซึ่งกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ 27
นำามาใช้เพียงระยะเวลาใดเวลาหนึ่งเท่านั้นให้เกิดเป็นค่านิยมในสังคม
เพราะหากใช้ต่อไปเรื่อยๆ จะส่งผลให้เกิดก่อให้เกิดภาวะการเบียดบัง
ผลลัพธ์ (Crowding-out effect) โดยประชาชนบางกลุ่มที่มีทัศนคติ
ที่อยากจะช่วยคุ้มครองประโยชน์สาธารณะอยู่แล้วรู้สึกว่าตนถูก “จ้าง”
มาให้ทำาเพื่อประโยชน์สาธารณะ และจะลดการแจ้งเบาะแสลงในท้ายที่สุด
เนื่องจากไม่อยากรู้สึกว่าแจ้งเบาะแสไปเพราะต้องการค่าตอบแทน
(4) การให้เงินเป็นสินรางวัลแก่ผู้แจ้งเบาะแสที่เป็นประชาชนนั้น
พึงให้เป็นการเฉพาะเรื่องที่กำาหนดไว้โดยกฎหมายเท่านั้น โดยเฉพาะกรณี
ที่รัฐสามารถติดตามทรัพย์สินคืนมาได้จากการกระทำาความผิดก็สมควร
ที่จะต้องตอบแทนผู้ให้ข้อมูลหรือเบาะแสนั้นๆ หากเป็นการกระทำาความผิด
ในลักษณะทั่วๆ ไป เพียงเล็กน้อย หรือยอมความกันได้ หรือไม่ได้ทำาให้รัฐ
ได้รายได้ หรือเบาะแสที่ให้มานั้นไม่ได้มีน้ำาหนักหรือคุณภาพเพียงพอที่จะ
นำาไปสู่การจับกุมและดำาเนินคดีก็ไม่สมควรที่จะได้รับสินรางวัล นอกจากนี้
ผลกระทบจากการแจ้งเบาะแสหรือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับจิตใจไม่สามารถ
วัดเป็นมูลค่าได้ ซึ่งจะต้องหาทางเยียวยาแก้ไขโดยวิธีการอื่นนอกเหนือ
ไปจากการให้เงินเป็นสินรางวัล
(5) อย่างไรก็ดี หากบางหน่วยงานยังคงที่จะให้รางวัล
ในรูปแบบอื่น ในบางกรณี ควรจะพิจารณาว่านอกเหนือจากการจัดเงินทุน
ช่วยเหลือ หรือชดเชยหรือทดแทนความเสียหายแล้ว ควรจะมีการจัด
เงินรางวัล การโปรโมทด้วยการเลื่อนตำาแหน่ง หรือการแสดงความเสียใจ
หรือขอโทษอย่างเป็นทางการต่อผลกระทบที่เกิดขึ้น
(6) เจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีอำานาจหน้าที่ตามภารกิจและ
ตามกฎหมายต่างๆ ไม่ควรที่จะได้รับสินรางวัลจากการปฏิบัติงานเพราะ
ถือว่าได้ทำาตามหน้าที่ของตนเองและได้รับค่าจ้างเป็นการตอบแทนอยู่แล้ว
การได้รับสินรางวัลเพิ่มเติมอาจจะนำามาซึ่งการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐได้
inside_WhistleBlower_c1(cs5).indd 27 13/2/2562 16:41:38