Page 24 - kpi20764
P. 24
ปัญหาการปรับปรุงกฎหมายที่มีผลใช้บังคับอยู่ตามแนวทางปฏิรูปประเทศไทยตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม: การเสริมประสิทธิภาพ
ด้านการคุ้มครองของผู้ให้ข้อมูล (Whistleblower) ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต การกระทำาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และการใช้อำานาจไม่ถูกต้องซึ่งกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ 23
ให้ผู้แจ้งเบาะแสรับรู้ถึงสิทธิและการคุ้มครองประโยชน์สาธารณะมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ในเรื่องของมาตรการความคุ้มครองสำาหรับผู้แจ้งข้อมูลหรือ
เบาะแส พบว่าเกือบทั้งหมดจะมีการรักษาความลับของผู้แจ้งข้อมูลหรือ
เบาะแส ไม่ให้ผู้ถูกกล่าวหาได้รับทราบเพื่อป้องกันการโต้ตอบและอาจจะ
มีการประเมินความเสี่ยงและการให้ความคุ้มครองที่เพิ่มขึ้นกรณีที่อาจ
จะเกิดการโต้ตอบจากคู่กรณีได้ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาอาศัยทรัพยากรที่จำากัด
ทำาให้หลายๆ หน่วยงานไม่สามารถที่จะดำาเนินการคุ้มครองผู้แจ้งข้อมูล
หรือเบาะแสได้เพียงลำาพัง แต่ต้องพึ่งพาตำารวจเข้ามาสนับสนุนเพราะ
มีทรัพยากรครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ เช่น สถานีตำารวจและนายตำารวจ
เป็นต้น หน่วยงานดังกล่าวจึงเหมาะสมมากกว่าที่จะเข้ามาดูแลและ
ให้ความคุ้มครองในส่วนนี้
สำาหรับมาตรการจูงใจด้วยการให้สินรางวัลแก่ผู้แจ้งข้อมูลหรือ
เบาะแสนั้น พบว่า หลายๆ หน่วยงานยังมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
ที่จะให้มีการให้สินรางวัล โดยหน่วยงานที่มีอำานาจหน้าที่ที่เกี่ยวกับ
เรื่องร้องเรียนเป็นการทั่วไป หรือเป็นการกระทำาความผิดเชิงลหุโทษนั้น
เห็นว่า การให้สินรางวัลไม่จำาเป็นต้องมี เพราะเป็นการขัดต่อกระบวนการ
ยุติธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเสนอผลประโยชน์ตอบแทนเข้ามา
เกี่ยวข้อง การคุ้มครองประโยชน์สาธารณะนั้นเป็นหน้าที่ของประชาชน
และหากประชาชนรู้สิทธิของตนเองและมีทัศนคติเรื่องการรักษาประโยชน์
และสร้างความเป็นธรรมโดยทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการคุ้มครองประโยชน์
สังคม เพราะเมื่อสังคมเป็นสุข ตนเองก็เป็นสุข นอกจากนี้ การให้สินรางวัล
ไม่เป็นผลต่อการคุ้มครองประโยชน์สาธารณะ ซ้ำายังเป็นช่องทางในการ
ทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐอีกด้วย ในอีกแง่หนึ่ง หน่วยงานมีอำานาจหน้าที่
ที่เกี่ยวกับเรื่องร้องเรียนที่เป็นการเฉพาะ หรืออาศัยกฎหมายเฉพาะนั้น
เห็นว่ามาตรการจูงใจด้วยการให้สินรางวัลเป็นปัจจัยหนึ่งที่เพิ่มแรงจูงใจ
inside_WhistleBlower_c1(cs5).indd 23 13/2/2562 16:41:37