Page 20 - kpi20764
P. 20
ปัญหาการปรับปรุงกฎหมายที่มีผลใช้บังคับอยู่ตามแนวทางปฏิรูปประเทศไทยตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม: การเสริมประสิทธิภาพ
ด้านการคุ้มครองของผู้ให้ข้อมูล (Whistleblower) ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต การกระทำาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และการใช้อำานาจไม่ถูกต้องซึ่งกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ 19
ในส่วนที่สองนั้น พบว่าการให้ข้อมูลหรือเบาะแสในประเทศไทย
มีเพียงหลักเกณฑ์ของผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภาที่กำาหนดให้ผู้เปิดเผย
ข้อมูลหรือเบาะแสจะได้รับเอกสิทธิ์ไม่ตกอยู่ภายใต้ความรับผิดทั้ง
ทางแพ่ง ทางอาญา ทางปกครอง หรือทางวินัยอันเกิดจากการเปิดเผย
ข้อมูลหรือการแจ้งเบาะแสนั้น ในขณะที่หน่วยงานอื่นๆ ไม่ได้กำาหนด
เอกสิทธิ์ความคุ้มกันทางกฎหมายแต่อย่างใด โดยเอกสิทธิ์ดังกล่าว
นอกจากจะไม่ก่อให้เกิดความรับผิดแล้ว ยังเป็นมาตรการสำาคัญที่จูงใจ
ให้บุคคลเปิดเผยข้อมูลหรือแจ้งเบาะแสอีกด้วย
ในส่วนสุดท้ายนั้น พบว่าการกระทำาที่ไม่ถูกต้องต่อผู้ให้ข้อมูล
ภายในองค์กรนั้นเป็นปัญหาเกี่ยวเนื่องกับการโต้ตอบของผู้ที่ได้รับ
ผลกระทบจากการให้ข้อมูลหรือเบาะแสที่สำาคัญในเรื่องการให้ข้อมูลหรือ
เบาะแสภายในองค์กร (prohibited personnel practices) เช่น การลด
ขั้นเงินเดือน การไม่พิจารณาความดีความชอบให้ตามควร และการให้
ออกจากงาน เป็นต้น เมื่อพิจารณามาตรการคุ้มครองการให้ข้อมูล
ของข้าราชการในการให้ข้อมูลต่อหน่วยงานของตนนั้น พบว่าหากผู้ให้ข้อมูล
ที่ถูกโต้ตอบจากบุคคลในหน่วยงานซึ่งไม่ใช่หัวหน้า หรือผู้บังคับบัญชา
ก็สามารถที่จะร้องทุกข์ต่อผู้บังคับบัญชาได้ แต่หากการกระทำาโต้ตอบ
มาจากหัวหน้าหรือผู้บังคับบัญชา การร้องทุกข์อาจไม่ได้รับพิจารณา
ด้วยความเป็นธรรม เพราะผู้บังคับบัญชาซึ่งเป็นผู้พิจารณาเรื่องร้องทุกข์
เป็นผู้มีส่วนได้เสียในเรื่องนั้นเสียเอง ทั้งนี้ ฝ่ายบริหารก็ได้เห็นความสำาคัญ
กับการให้ข้อมูลภายในหน่วยงาน โดยกำาหนดมาตรการเกี่ยวกับ
การคุ้มครองผู้ให้ข้อมูลหรือเบาะแสแก่รัฐหากเป็นบุคคลภายในหน่วยงาน
ตามมติเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2542 กำาหนดมาตรการ
ให้ความคุ้มครองข้าราชการผู้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อทางราชการ
แต่กฎหมายฉบับดังกล่าวก็มิได้ครอบคลุมขยายไปถึงภาคเอกชน
inside_WhistleBlower_c1(cs5).indd 19 13/2/2562 16:41:37