Page 22 - kpi20764
P. 22

ปัญห�ก�รปรับปรุงกฎหม�ยที่มีผลใช้บังคับอยู่ต�มแนวท�งปฏิรูปประเทศไทยต�มรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้�นกฎหม�ยและกระบวนก�รยุติธรรม: ก�รเสริมประสิทธิภ�พ
             ด้�นก�รคุ้มครองของผู้ให้ข้อมูล (Whistleblower) ที่เกี่ยวข้องกับก�รทุจริต ก�รกระทำ�ที่ไม่ชอบด้วยกฎหม�ย และก�รใช้อำ�น�จไม่ถูกต้องซึ่งกระทบต่อประโยชน์ส�ธ�รณะ  21

                    ของบุคคลทั่วไปและกรณีข้าราชการให้ข้อมูลต่อหน่วยงานตน ต่างไม่
                    ปรากฏหลักการเยียวยาความเสียหายที่เกิดจากการให้ข้อมูลหรือเบาะแส

                    เอาไว้ โดยเฉพาะ ดังนั้นหากผู้ให้ข้อมูลหรือเบาะแสได้รับความเสียหาย
                    ในลักษณะการทำาละเมิดจากผู้ที่กระทำาการ โต้ตอบเนื่องจากการให้
                    ข้อมูลจะสามารถใช้สิทธิเรียกร้องการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเนื่องจาก

                    การทำาละเมิดตามที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ได้บัญญัติไว้ใน
                    มาตรา 420 และมาตรา 448 เป็นต้น และเมื่อศึกษาเปรียบเทียบกับ

                    กฎหมายของต่างประเทศแล้วในส่วนของค่าเสียหายในเชิงลงโทษกรณี
                    ผู้ให้ข้อมูลหรือเบาะแสที่ถูกโต้ตอบที่ได้รับความเสียหายหรือเชื่อว่าจะ
                    ได้รับความเสียหายจากการถูกโต้ตอบนั้น ประเทศไทยควรเสนอให้

                    กำาหนดหลักการเรียกค่าเสียหายในเชิงลงโทษแก่ผู้ให้ข้อมูลหรือเบาะแส
                    ในกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้ให้ข้อมูลหรือเบาะแสและเสนอเพิ่ม

                    หลักการในกฎหมายว่าด้วยการบริหารงานบุคคลของข้าราชการโดย
                    กำาหนดให้มีค่าเสียหายในเชิงลงโทษซึ่งฐานในการคำานวณที่ชัดเจน
                    เหมือนพระราชบัญญัติความลับทางการค้า พุทธศักราช 2545 คือ

                    ให้ศาลมีอำานาจสั่งให้ผู้ที่กระทำาการโต้ตอบจ่ายค่าสินไหมทดแทน
                    เพื่อการลงโทษเพิ่มขึ้นจากจำานวนค่าสินไหมทดแทนที่แท้จริงที่ศาล

                    กำาหนดได้ตามที่ศาลเห็นสมควร

                           ในส่วนที่สองนั้น พบว่า หลักเกณฑ์การให้ข้อมูลแก่รัฐ

                    ในประเทศไทยมิได้กำาหนดการกระทำาที่เป็นการโต้ตอบผู้ให้ข้อมูลหรือ
                    เบาะแสเพราะเหตุที่ได้ให้ข้อมูลหรือเบาะแสนั้น เพียงแต่หากการกระทำา
                    โต้ตอบเข้าลักษณะการกระทำาความผิดทางอาญาที่กฎหมายบัญญัติให้

                    เป็นความผิดและกำาหนดโทษไว้สำาหรับความผิดนั้นๆ ผู้กระทำาก็ต้องรับผิด
                    ตามที่กฎหมายกำาหนดอันเป็นไปตามหลักกฎหมายทั่วไป ในขณะที่

                    กฎหมายของประเทศออสเตรเลียยังปรากฏหลักการเยียวยาผู้ให้ข้อมูล







         inside_WhistleBlower_c1(cs5).indd   21                                13/2/2562   16:41:37
   17   18   19   20   21   22   23   24   25   26   27