Page 225 - kpi20764

224

ข้อมูลได้ ฉะนั้น หากการเปิดเผยข้อมูลได้ถูกกระทำาไปกับหน่วยงานหรือ
บุคคลที่มิได้รับการแต่งตั้ง จึงจำาเป็นที่จะต้องพิจารณาว่าการเปิดเผยข้อมูล

239
นั้นจะเป็นกรณีใดกรณีหนึ่งระหว่างมาตรา 43G หรือมาตรา 43H
240
การเปิดเผยข้อมูลจึงจะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย PIDA รวมทั้ง
ความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับข้อยกเว้นของกฎหมายมาตรา 43F ซึ่งสร้าง
ความสับสนแก่การเปิดเผยข้อมูลที่กำาหนดให้การเปิดเผยข้อมูลสามารถ
กระทำาต่อบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งได้ทันที โดยมิต้องทำาการเปิดเผยข้อมูล

เป็นการภายในหน่วยงานมาก่อนได้ จึงเป็นไปได้ยากที่ผู้เปิดเผยข้อมูล
จะสามารถพิสูจน์ถึงพยานหลักฐานที่มีความเกี่ยวข้องกับการกระทำา
ความผิดได้อย่างชัดเจน

239 Section 43G, The Employment Right Act, 1996. (1) การเปิดเผยข้อมูลที่มี
องค์ประกอบถูกต้องครบถ้วนซึ่งกระทำาขึ้นให้สอดคล้องกับกฎหมายมาตรานี้ ถ้า
(a) ลูกจ้างทำาการเปิดเผยข้อมูลด้วยความสุจริต
(b) ลูกจ้างมีความเชื่ออย่างมีเหตุผลเหมาะสมเพียงพอว่าข้อมูลที่นำามาเปิดเผย หรือ
ข้อกล่าวหาใดๆ ประกอบด้วยข้อเท็จจริงอันมีสาระสำาคัญและมีความถูกต้องครบถ้วน
(c) ลูกจ้างต้องไม่กระทำาการเปิดเผยข้อมูลด้วยวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์แก่ตนเอง
(d) การเปิดเผยข้อมูลต้องประกอบด้วยองค์ประกอบตามเงื่อนไขข้อใดข้อหนึ่งของ
อนุมาตรา (2) และ
(e) การเปิดเผยข้อมูลต้องมีเหตุผลเหมาะสมเพียงพอที่จะกระทำาการขึ้นได้ในทุกๆ
สถานการณ์
(2) เงื่อนไขที่ใช้เป็นองค์ประกอบตาม (1)(d) คือ
(a) ในขณะที่ลูกจ้างทำาการเปิดเผยข้อมูล ลูกจ้างต้องมีความเชื่ออย่างมีเหตุผลเหมาะสม
เพียงพอว่าตนจะได้รับความเสียหายจากการกระทำาของนายจ้างหากลูกจ้างทำาการเปิดเผย
ข้อมูลต่อนายจ้าง หรือทำาการเปิดเผยข้อมูลต่อบุคคลผู้ได้รับการแต่งตั้งตามมาตรา 43F
(b) ในกรณีที่ไม่ปรากฏบุคคลผู้ได้รับการแต่งตั้งให้ทำาหน้าที่ (ตามมาตรา 43F) ดูแล
รับผิดชอบเกี่ยวกับการกระทำาความผิดที่เกิดขึ้น ลูกจ้างมีความเชื่ออย่างมีเหตุผลเหมาะสม
เพียงพอว่าพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการกระทำาความผิดจะถูกปกปิด ปิดบัง ซ่อนเร้น
หรือถูกทำาลายลงไป ถ้าลูกจ้างทำาการเปิดเผยข้อมูลต่อนายจ้าง หรือ
(c) ลูกจ้างได้ทำาการเปิดเผยข้อมูลอันมีสาระสำาคัญเช่นเดียวกันนั้นมาก่อนหน้านี้แล้ว
โดยทำาการเปิดเผยข้อมูลต่อ

inside_WhistleBlower_c1(cs5).indd 224 13/2/2562 16:41:48