Page 70 - kpi20761
P. 70

การพัฒนาและปรับปรุงบทบัญญัติกฎหมายแรงงานไทยให้สอดคล้องกับหลักการสากลและแนวทางปฏิรูปประเทศ  69


                            (๑)  วิธีทำงกำรแรงงำนสัมพันธ์กับกำรระงับข้อพิพำท
                    แรงงำน


                            บนข้อเท็จจริงที่ว่ากฎหมายแรงงานสามารถก�าหนดเงื่อนไข
                    การใช้แรงงานได้แต่เพียงหลักการพื้นฐานเกี่ยวกับการใช้แรงงานทั่วไปเท่านั้น

                    หากกิจการใดต้องการก�าหนดหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์
                    ทางแรงงานที่มากไปกว่าบทกฎหมายก็จะต้องท�าเป็นข้อตกลงระหว่าง
                    ฝ่ายนายจ้างและฝ่ายลูกจ้าง กล่าวคือ เป็นการเจรจาต่อรองกันเองระหว่าง

                    ผู้ใช้แรงงานและผู้ได้รับประโยชน์จากการแรงงาน โดยรัฐจะไม่ได้เข้าไป
                    แทรกแซงในรายละเอียดของข้อตกลงดังกล่าว ซึ่งบ่อยครั้งการเจรจามักจะ

                    ล้มเหลวด้วยต่างฝ่ายต่างไม่ยอมลงให้กัน อันท�าให้อาจเกิดเป็นข้อพิพาท
                    แรงงานตามมาในที่สุด ด้วยเหตุนี้กฎหมายว่าด้วยการแรงงานสัมพันธ์จึงได้
                    ก�าหนดให้มีกระบวนการในการได้มาซึ่งหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงซึ่งข้อตกลงฯ

                    ดังกล่าว โดยก�าหนดวิธีการและขั้นตอนในการยื่นข้อเรียกร้อง การเจรจา
                    ต่อรอง การประนีประนอม และการบริหารจัดการกระบวนการการเจรจา

                    ที่ล้มเหลวให้สามารถยุติด้วยสันติวิธี ภายใต้เครื่องมือการบีบบังคับฝ่าย
                    ที่ไม่ยอมตกลงหรือปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามหน้าที่ที่ตนพึงมีตามข้อตกลง
                    ที่ได้เกิดขึ้นแล้ว ด้วยการนัดหยุดงานหรือการปิดงาน อันถือวิถีทางแรงงาน

                    เพื่อการระงับข้อพิพาทแรงงานนั้นเอง

                            (๒)  เจ้ำหน้ำที่ และคณะกรรมกำรพิเศษ


                            หากพิเคราะห์จากพระราชบัญญัติ ๔ ฉบับ ซึ่งเป็นกฎหมายหลัก
                    ที่เกี่ยวกับการแรงงาน ได้แก่ พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานฯ พระราช
                    บัญญัติเงินทดแทนฯ พระราชบัญญัติประกันสังคมฯ และพระราชบัญญัติ

                    แรงงานสัมพันธ์ฯ แล้วพบได้ว่ากฎหมายทุกฉบับได้ก�าหนดให้การเรียกร้อง
                    และ/หรือข้อพิพาทในสิทธิทางแรงงานซึ่งก�าหนดไว้ในพระราชบัญญัติ

                    ฉบับนั้นๆ จ�าเป็นต้องผ่านการวินิจฉัยของเจ้าหน้าที่หรือคณะกรรมการเฉพาะ





         inside_ThLabourLaw_c1-2.indd   69                                     13/2/2562   16:24:10
   65   66   67   68   69   70   71   72   73   74   75