Page 45 - kpi20680
P. 45
23
ที่กล่าวไปผู้ศึกษาต้องการจะให้เห็นว่าจากข้อสังเกตทั้งสี่ประการดังกล่าวนํามาสู่ประเด็นผล
ผูกพันทางกฎหมายของแนวนโยบายแห่งรัฐในส่วนของการจัดทํายุทธศาสตร์ชาติ ตามมาตรา 65
และมาตรา 162 แห่งรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ประกอบกับบทบัญญัติในมาตรา 5 มาตรา 23 ถึง
มาตรา 26 ตามพระราชบัญญัติดังกล่าวมีลักษณะเป็นการบังคับให้รัฐต้องดําเนินการอย่าง แน่นอน
และเด็ดขาดรวมทั้งมีการกําหนดให้ยุทธศาสตร์ชาติมีผลผูกพันกับทุกองค์กรของรัฐให้ต้อง ปฏิบัติ
ยุทธศาสตร์ชาติดังกล่าวและหากไม่ดําเนินการตามหลักยุทธศาสตร์ชาติจะส่งผลให้ คณะกรรมการ
ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติดําเนินการตรวจสอบ และหากมีมูล ต้องได้รับบทลงโทษ
ถึงขั้นพักราชการหรือพักงาน หรือสั่งให้ออกจากราชการหรือออกจากงานไว้ก่อน หรือ สั่งให้พ้น
จากตําแหน่ง ซึ่งมองว่าอาจจะขัดกับหลักการของแนวนโยบายแห่งรัฐ โดยเป็นเพียงแค่ บทบัญญัติที่
ไม่มีผลผูกพันที่แน่นอนและเด็ดขาดต่อรัฐ แต่เป็นหลักการในการวางแนวทาง การวาง กรอบกลางๆ
สําหรับรัฐในการใช้ตรากฎหมายและกําหนดนโยบายการบริหารราชแผ่นดินเท่านั้น อีกทั้ง
คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญได้มีการกําหนดบทบัญญัติหมวด 5 ว่าด้วยหน้าที่ของรัฐเพิ่มเติมเข้า
มาแล้ว หากมีการจัดทําแผนยุทธศาสตร์ชาติซึ่งเกิดผลในทางปฏิบัติอย่างแน่นอน ก็จะส่งผลทําให้รัฐ
หรือคณะรัฐมนตรีที่จะเข้ามาบริหารราชแผ่นดินไม่มีความคล่องตัวและความเป็นอิสระในการ
กําหนด นโยบายการบริหารราชการแผ่นดินของตน เนื่องจากต้องกําหนดแนวทางการบริหารราช
แผ่นดินให้ สอดคล้องถึงสามกรอบด้วยกันคือ หน้าที่ของรัฐ แนวนโยบายแห่งรัฐและยุทธศาสตร์
ชาติ
2.2.1 สิทธิของประชาชน
ในส่วนของบทบัญญัติว่าด้วยแนวนโยบายแห่งรัฐ ตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันและ
เจตนารมณ์ของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญชี้ให้เห็นชัดแล้วว่า บทบัญญัติดังกล่าวเป็นเพียง
แนวทาง ให้รัฐดําเนินการตรากฎหมายและกําหนดนโยบายการบริหารราชการแผ่นดิน โดยไม่
ก่อให้เกิดสิทธิใน การฟ้องร้องรัฐเพื่อบังคับให้รัฐต้องดําเนินการอย่างใด ดังนั้นประชาชนและชุมชน
จึงไม่มีสิทธิในการ ฟ้องร้องคดีต่อศาล กรณีที่รัฐไม่ดําเนินการตามแนวนโยบายแห่งรัฐ แต่ไม่ได้
หมายความรวมถึงรัฐ ดําเนินนโยบายโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
และในส่วนของบทบัญญัติว่าด้วยแนวนโยบายแห่งรัฐ ประเด็นของการจัดทํายุทธศาสตร์
ชาติซึ่งมีการกําหนดให้สภาผู้แทนราษฎร หรือวุฒิสภา หรือคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ
ดําเนินการเอาผิดกับหัวหน้าหน่วยงานของรัฐที่ไม่ได้ดําเนินการตามแผนยุทธศาสตร์ชาติซึ่งกําหนด
ไว้ในมาตรา 24 ถึงมาตรา 26 และมีการกําหนดแนวทางให้ส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและ
ปราบปรามการทุจริตแห่งชาติดําเนินการตรวจสอบ โดยหากมีมูลจะส่งผลให้ผู้บังคับบัญชาของผู้ถูก
กล่าวหานั้นสั่งให้ผู้ นั้นพักราชการหรือพักงาน หรือสั่งให้ออกจากราชการหรือออกจากงานไว้ก่อน