Page 42 - kpi20680
P. 42
20
สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติอีกด้วย ยิ่งเป็นการเน้นยํ้าให้เห็นถึงความสําคัญของการกําหนด
ยุทธศาสตร์ชาติโดยผู้ศึกษาจะได้กล่าวดังนี้
ภายหลังรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร พุทธศักราช 2560 มีผลบังคับใช้ คณะรัฐมนตรีได้
เสนอร่าง “พระราชบัญญัติการจัดทํายุทธศาสตร์ชาติพุทธศักราช... ” เข้าสู่การพิจารณาของสภานิติ
บัญญัติแห่งชาติจนมีการประกาศบังคับใช้ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ.
2560 โดยมีชื่อว่าพระราชบัญญัติการจัดทํายุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2560 มี เจตนารมณ์ซึ่งปรากฏใน
หมายเหตุของกฎหมายฉบับดังกล่าวสรุปสาระสําคัญได้คือ มีการอ้างอิงความ ในมาตรา 65 ของ
บัญญัติว่าด้วยแนวนโยบายแห่งรัฐ บัญญัติให้รัฐพึงจัดให้มียุทธศาสตร์ชาติเป็น เป้าหมายการพัฒนา
ประเทศอย่างยั่งยืนตามหลักธรรมาภิบาลเพื่อใช้เป็นกรอบในการจัดทําแผนต่างๆ ให้สอดคล้องและ
บูรณาการกัน เพื่อให้เกิดพลังผลักดันร่วมกันไปสู่เป้าหมายดังกล่าวจึงร่าง พระราชบัญญัติฉบับนี้ขึ้น
และเมื่อพิจารณาเนื้อหาของบทบัญญัติใน มาตรา 5 และในหมวด 3 มาตรา 23 ถึงมาตรา 26 ตาม
พระราชบัญญัติการจัดทํายุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2560 โดยมีการกําหนด สาระสําคัญไว้ดังนี้
มาตรา 5 “ให้มียุทธศาสตร์ชาติเป็นเป้าหมายในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนตามหลักธรร
มาภิบาลเพื่อใช้เป็นกรอบในการจัดทําแผนต่างๆ ให้สอดคล้องและบูรณาการกันอันจะก่อให้เกิด
พลังผลักดันร่วมกันไปสู่เป้าหมายดังกล่าว ตามระยะเวลาที่กําหนดไว้ในยุทธศาสตร์ชาติซึ่งต้องไม่
น้อยกว่ายี่สิบปี
การประกาศใช้ยุทธศาสตร์ชาติให้ทําเป็นประกาศพระบรมราชโองการและเมื่อได้ประกาศ
ในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ให้ใช้บังคับได้ และหน่วยงานของรัฐทุกหน่วยมีหน้าที่ดําเนินการเพื่อให้
บรรลุเป้าหมายตามที่กําหนดไว้ในยุทธศาสตร์ชาติ
การกําหนดนโยบายการบริหารราชการแผ่นดินของคณะรัฐมนตรีก่อนที่จะเข้าบริหาร
ราชการแผ่นดิน การจัดทําแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นโยบายและแผนระดับชาติว่า
ด้วยความมั่นคงแห่งชาติและแผนอื่นใด รวมตลอดทั้งการจัดทํางบประมาณรายจ่าย ประจําป ี
งบประมาณต้องสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ
ให้เป็นหน้าที่ของคณะรัฐมนตรีที่จะกํากับดูแลและสนับสนุนให้หน่วยงานของรัฐทุกหน่วย
ดําเนินการให้เป็นไปตามวรรคสองและวรรคสาม
ในกรณีที่หน่วยงานของรัฐเป็นองค์กรในฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายตุลาการ หรือเป็นองค์กรอิสระ
หรือองค์กรอัยการ การกํากับดูแลตามวรรคสี่ ให้หมายความถึงการประสาน การปรึกษาหรือ
เสนอแนะต่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐองค์กรดังกล่าว”