Page 77 - kpi20440
P. 77

การประชุมวิชาการสถาบันพระปกเกล้า    77
                                                                                         ครั้งที่ 20 ประจำาปี 2561
                                                                               ประชาธิปไตยไทย: ก้าวย่างเพื่อการพัฒนา




                                  “เพื่อให้เป็นไปตามหลักนิติธรรม (The Rule of Law) การปฏิบัติหน้าที่ของรัฐสภา

                          คณะรัฐมนตรี ศาล รวมทั้งองค์กรตามรัฐธรรมนูญและหน่วยงานของรัฐ ต้องอยู่บนพื้นฐานของ
                          บทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้และบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่มีความเป็นธรรม สามารถอธิบายและ

                          ให้เหตุผลได้และจะใช้อ�านาจรัฐโดยปราศจากบทบัญญัติแห่งกฎหมายรองรับนั้นไม่ได้  ”
                                                                                               23

                                                                                             24
                          จากกระบวนการอันเป็นที่มาของบทบัญญัติเกี่ยวกับหลักนิติธรรม มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า   ในการพิจารณา
                  ร่างมาตรานี้ ไม่ปรากฏการอภิปรายในทางเนื้อหาถึงความแตกต่างของหลักการทั้งสอง คงมีแต่การอภิปราย

                  ว่าหลักการใดกว้างแคบอย่างไร ซึ่งไม่ท�าให้เห็นถึงสารัตถะของความเหมือนและความแตกต่างของหลักการ
                  ทั้งสอง จนท�าให้ในที่สุดแล้ว แม้จะมีการลงคะแนนเสียงเพื่อหาข้อยุติในการใช้ถ้อยค�า แต่ก็ไม่มีผู้ใดสรุปได้ว่า

                  ความเหมือนและความแตกต่างในทางเนื้อหาของหลักการทั้งสองคืออะไรกันแน่ รวมทั้งในบันทึกเจตนารมณ์
                  ของคณะกรรมาธิการวิสามัญบันทึกเจตนารมณ์ จดหมายเหตุและตรวจรายงานการประชุม สภาร่างรัฐธรรมนูญ

                  ก็ไม่ได้ความกระจ่างเช่นกัน

                          อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาเนื้อหาจากการประชุมสภาร่างรัฐธรรมนูญข้างต้น เห็นว่า การไม่ได้มี

                  การอภิปรายในทางเนื้อหาถึงความแตกต่างของหลักการทั้งสอง มิได้หมายความว่าผู้ร่างมีไม่มีความเข้าใจหรือ

                  มีความสับสนในความหมายและขอบเขตของหลักนิติรัฐและนิติธรรม แม้ในฝ่ายที่เสนอให้ใช้ค�าว่า “นิติธรรม”
                  ก็ยังยอมรับว่าแท้จริงแล้วควรใช้ค�าว่า “หลักนิติรัฐ” จะมีความเหมาะสมทั้งในแง่หลักการและเจตนารมณ์
                  แต่เลือกที่จะใช้ค�า ‘คุ้นเคย’มากกว่าที่จะใช้ค�าที่ ‘เหมาะสม’ทั้งนี้ การลงมติในการเลือกใช้ค�าดังกล่าวจึง

                  ภาพสะท้อนการประนีประนอมของผู้ร่างรัฐธรรมนูญจากทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้หากพิจารณาในด้านการจัดโครงสร้าง

                  การปกครองของไทย อาจกล่าวได้ว่าค�าว่า “นิติธรรม” ที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญนั้นยึดถือทั้งรูปแบบและสาระ
                  ส�าคัญตาม “หลักนิติรัฐ” นั่นเอง


                          การตัดสินใจบัญญัติเรื่องหลักนิติธรรมไว้ในบทมาตราของรัฐธรรมนูญนี้ นักกฎหมายรัฐธรรมนูญ
                  ท่านหนี่งให้ความเห็นว่า การบัญญัติค�าว่า “หลักนิติธรรม”ไว้นั้น ท�าให้มีลักษณะเป็นการบังคับ อาจน�าไปสู่

                  การฟ้องร้องบังคับองค์กรต่าง ๆ ควรปล่อยให้เป็นไปตามความเห็นของนักวิชาการที่จะพัฒนากฎเกณฑ์ต่าง ๆ

                  ขึ้นมาเป็นล�าดับ การบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ จึงเสี่ยงต่อปัญหาการตีความ และแม้จะไม่บัญญัติไว้ แต่สาระของ
                  รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ก็แสดงอยู่ในตัวแล้วว่า การปกครองต้องเป็นไปตามหลักการนี้  25








                  23   คณะกรรมาธิการวิสามัญบันทึกเจตนารมณ์ จดหมายเหตุ และตรวจรายงานการประชุม สภาร่างรัฐธรรมนูญ, เจตนารมณ์
                  รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550, สิงหาคม 2550. http://library2.parliament.go.th/giventake/
                  content_cons40-50/cons2550/cons50-intention.pdf เข้าถึงเมื่อ 28 กันยายน 2558.
                  24   วรเจตน์ ภาคีรัตน์, อ้างแล้วใน 2, เชิงอรรถที่ 1.

                  25   มนตรี รูปสุวรรณ, บทวิเคราะห์ทางวิชาการเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญแห่งราขอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550, กรุงเทพฯ: มูลนิธิ
                  คอนราด อาเดนาวร์, 2550, หน้า 44-45.
   72   73   74   75   76   77   78   79   80   81   82