Page 72 - kpi20440
P. 72

KPI Congress 20th
           72
                    2018
              Thai Democracy on the Move




                                                                       11
                      ประการที่สาม ความแตกต่างทางด้านการแบ่งแยกอ�านาจ   ตามหลักนิติรัฐ การแบ่งแยกอ�านาจ
             ถือได้ว่าเป็นหลักส�าคัญอันจะขาดมิได้ เพื่อให้เกิดการถ่วงดุลอ�านาจและตรวจสอบกันและกัน เพื่อมิให้มีฝ่ายใด
             ฝ่ายหนึ่งมีอ�านาจมากกว่าและกระท�าการตามอ�าเภอใจ ส่วนหลักนิติธรรมนั้น ไม่ปรากฏให้เห็นเรื่องการแบ่งแยก

             อ�านาจ เนื่องจากรัฐสภาและรัฐบาลมีความเชื่อมโยงกันเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ดีทั้งหลักนิติรัฐและหลักนิติธรรม
             ต่างก็ยอมรับความเป็นอิสระขององค์กรตุลาการ


                      ประการที่สี่ ความแตกต่างทางด้านเนื้อหา   ตามหลักนิติรัฐ เน้นรูปแบบกับโครงสร้างของกฎหมาย
                                                         12
             และวิธีการในการไปให้ถึงเป้าหมายตามจุดประสงค์ รัฐยอมอยู่ภายใต้กฎหมายที่มีโครงสร้างล�าดับชั้นทางกฎหมาย

             อย่างเป็นระบบ มีการวางหลักความชอบด้วยกฎหมายที่บ่งบอกที่มาและข้อจ�ากัดของการใช้อ�านาจตามกฎหมาย

             มีเกณฑ์ในการใช้อ�านาจตามกฎหมายให้เกิดความสมดุล และมีหลักเกณฑ์เกี่ยวกับบทบาทขององค์กรตุลาการ
             ในการตรวจสอบความชอบด้วยรัฐธรรมนูญรวมถึงความชอบด้วยกฎหมายด้วย ในการอธิบายเนื้อหาของนิติรัฐ
             จึงมักเริ่มต้นจากการกล่าวถึง “องค์ประกอบ” อันได้แก่หลักต่าง ๆ ที่รวมกันเป็นหลักนิติรัฐ ส่วนด้านนิติธรรมนั้น

             เนื้อหาไม่มีแบบแผนที่ชัดเจนแน่นอน ไม่มีกรอบที่ตายตัว เปลี่ยนแปลงไปตามกรณีต่าง ๆ แต่เน้นบทบาทในการ

             อ�านวยความยุติธรรมโดยศาลเพื่อคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนให้พ้นจากการใช้อ�านาจโดยมิชอบของรัฐ
             ในการอธิบาย กล่าวให้ชัดเจนได้ว่า หลักนิติธรรมหมายถึง “ลักษณะ” ที่ควรของกฎหมายหรือการปฏิบัติหน้าที่
             ของเจ้าหน้าที่ของรัฐ


                                                                                                       13
                      ประการที่ห้า ความแตกต่างในด้านการควบคุมตรวจสอบการตรากฎหมายเพื่อคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐาน
             ด้านนิติรัฐนั้น รัฐคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนเป็นลายลักษณ์อักษร ตามล�าดับขั้นของกฎหมาย นับแต่

             รัฐธรรมนูญลงมา องค์กรนิติบัญญัติย่อมผูกพันต่อรัฐธรรมนูญในการตรากฎหมายเพื่อให้มีผลในทางปฏิบัติ
             จึงก�าหนดให้มีองค์กรที่คอยควบคุม ตรวจสอบ ความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของกฎหมายที่องค์กรนิติบัญญัติ
             ตราขึ้น ได้แก่ ศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนด้านนิติธรรมนั้น ไม่มีลายลักษณ์อักษรที่ชัดเจนที่จะแสดงให้เห็นเป็นตัวบท

             หากแต่ถือว่ารัฐเป็นรัถฐาธิปัตย์ โดยในทางทฤษฎี รัถฐาธิปัตย์โดยรัฐสภาสามารถตรากฎหมายอย่างไรก็ได้ทั้งสิ้น

             จึงไม่อาจมีกรณีที่รัฐสภาตรากฎหมายขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญได้ การควบคุมการตรากฎหมายของรัฐสภา
             จึงเป็นการควบคุมกันทางการเมือง ไม่ใช่การควบคุมทางกฎหมายและถือว่ากฎหมายต่างล้วนอยู่ในสถานะที่
             เท่าเทียมกัน ทั้งนี้ ในทางปฏิบัติบุคคลย่อมได้รับการประกันสิทธิขั้นพื้นฐานโดยองค์กรตุลาการ


                      แม้หลักนิติรัฐและหลักนิติธรรมจะมีความแตกต่างกันหลายประการดังที่เสนอมาข้างต้น แต่ความ
       เอกสารประกอบการประชุมกลุ่มย่อยที่ 1  11   วรเจตน์ ภาคีรัตน์, อ้างแล้วใน 2
             ใกล้เคียงกันของคุณค่าและคุณธรรมเบื้องหลังของหลักการทั้งสองในอันที่มุ่งจะสร้างความยุติธรรมและรักษา
             สิทธิเสรีภาพของประชาชนก็มีมากจนแทบจะกล่าวได้ว่าหลักการทั้งสองเป็นเหรียญแห่งคุณงามความดีที่มี

             สองด้าน ขึ้นอยู่กับที่จะมองในด้านใด และน�าไปใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างไร







             12
                 ปิยบุตร แสงกนกกุล, อ้างแล้วใน 6.
             13
                 วรเจตน์ ภาคีรัตน์, อ้างแล้วใน 2.
   67   68   69   70   71   72   73   74   75   76   77